ข่าวสาร
ไดฟูกุ ขนมแห่งความโชคดี คหกรรมโภชนาการ อาคาร 1 ชั้น 2
ที่ญี่ปุ่น มีเรื่องเล่าว่า ขนมไดฟูกุ มาจากขนมชนิดหนึ่งเรียกว่า "อุซึระโมจิ" หรือ "โมจินกกระทา" เพราะมีชิ้นใหญ่ ยาว และ
รูปร่างเหมือนนก ในสมัยเอโดะ ปี 1771 (หลังกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่สองได้ 4 ปี) ที่เมืองโคะกาว่า (เขตบุงเกียวของกรุงโตเกียวในยุคปัจจุบัน) ขนมโมจินกกระทา ได้ถูกปั้นให้มีขนาดเล็กลง และเพราะว่าไส้ทำจากถั่วแดงกวนผสมน้ำตาล ทำให้อยู่ท้องได้นาน จึงถูกเรียกว่า "ฮะระฟุโตะโมจิ” แปลว่า โมจิที่ทำให้ท้องป่อง และ "ไดฟูกุโมจิ" แปลว่า โมจิที่ทำให้ท้องโต กาลเวลาผ่านไป เพื่อความเป็นสิริมงคล คนญี่ปุ่นก็ได้เปลี่ยนตัวอักษรคันจิ ของคำว่า ไดฟูกุ โดยเปลี่ยนตัว ฟูกุ ที่แปลว่า "ท้อง" ให้เป็นตัว ฟูกุ ที่แปลว่า "โชคดี" ทำให้ขนมไดฟูกุในปัจจุบัน มีความหมายว่า "โมจิที่ทำให้โชคดีมาก" นั่นเอง
ที่ญี่ปุ่น มีเรื่องเล่าว่า ขนมไดฟูกุ มาจากขนมชนิดหนึ่งเรียกว่า "อุซึระโมจิ" หรือ "โมจินกกระทา" เพราะมีชิ้นใหญ่ ยาว และรูปร่างเหมือนนก ในสมัยเอโดะ ปี 1771 (หลังกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่สองได้ 4 ปี) ที่เมืองโคะกาว่า (เขตบุงเกียวของกรุงโตเกียวในยุคปัจจุบัน) ขนมโมจินกกระทา ได้ถูกปั้นให้มีขนาดเล็กลง และเพราะว่าไส้ทำจากถั่วแดงกวนผสมน้ำตาล ทำให้อยู่ท้องได้นาน จึงถูกเรียกว่า "ฮะระฟุโตะโมจิ” แปลว่า โมจิที่ทำให้ท้องป่อง และ "ไดฟูกุโมจิ" แปลว่า โมจิที่ทำให้ท้องโต กาลเวลาผ่านไป เพื่อความเป็นสิริมงคล คนญี่ปุ่นก็ได้เปลี่ยนตัวอักษรคันจิ ของคำว่า ไดฟูกุ โดยเปลี่ยนตัว ฟูกุ ที่แปลว่า "ท้อง" ให้เป็นตัว ฟูกุ ที่แปลว่า "โชคดี" ทำให้ขนมไดฟูกุในปัจจุบัน มีความหมายว่า "โมจิที่ทำให้โชคดีมาก" นั่นเอง