ข่าวสาร
8 โรคฮิตหน้าร้อน อันตรายในเด็ก
8 โรคฮิตหน้าร้อน อันตรายในเด็ก
โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ
อาการ: ถ่ายเหลวหรือเป็นน้ำ อาจมีไข้และปวดท้องร่วมด้วย
การป้องกัน: ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด และล้างมือก่อนรับประทาน อาหารทุกครั้ง
โรคอาหารเป็นพิษ
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
อาการ: คลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียนและท้องเสีย
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบ ๆ หรืออาหารที่เก็บไว้นาน
โรคบิด
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียหรืออะมีบา
อาการ: ถ่ายบ่อย มีมูกหรือเลือดปน ปวดท้อง และมีไข้
การป้องกัน: รักษาความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม ดื่มน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองหรือต้มสุก
โรคอหิวาตกโรค
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้ออหิวาตกโรค
อาการ: ถ่ายครั้งละมาก ๆ ไม่มีอาการปวดท้อง รู้สึกกระหายน้ำอ่อนเพลีย ปัสสาวะน้อย ชีพจรเต้นเร็ว ควรให้รับเกลือแร่ป้องกันการช็อก และหมดสติ ในบางรายอาจเสียชีวิตได้
การป้องกัน: รักษาความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหาร
โรคไข้หวัดใหญ่
สาเหตุ: ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอจามรดกัน สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
อาการ: มีไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส ปวดหัว ปวดเบ้าตา ปวดเมื่อยตัว ไอมีเสมหะแต่ไม่มีน้ำมูก อาจเกิดภาวะปอดอักเสบแทรกซ้อน หายใจเหนื่อยหอบได้
การป้องกัน: เนื่องจากมีความอันตรายต่อเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบและผู้สูงวัยบุคคลเหล่านี้ควรรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
โรคไข้อีดำอีแดง (พบได้ในเด็ก 5-15 ปี)
สาเหตุ: สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หรือไอจามรดกัน
อาการ: ไข้สูงประมาณ 38.3 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่า ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียนเจ็บคอ ลิ้นแดงเป็นปุ่มคล้าย สตรอว์เบอร์รี พบผื่นแดงกระจายตัวจากลำตัวไปที่แขนขา แก้มเป็นสีแดง รอบปากจะขาวซีด
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยเนื่องจากโรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก
โรคไข้เลือดออก
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะมากัดผู้ป่วย โดยมีระยะฟักตัวอยู่ที่ 5-8 วัน ก่อนอาการจะแสดงออกอย่างชัดเจน
อาการ: มีไข้สูง 39 องศาขึ้นไป ปวดเมื่อยตามตัว ปวดตา มีจุดเลือดหรือผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย กรณีที่มีอาการรุนแรงจะพบเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ตลอดจนถ่ายและอาเจียนเป็นเลือดได้จึงควรรีบพบแพทย์
การป้องกัน: สวมเสื้อผ้าลูกให้มิดชิด ใช้สารไล่ยุงสำหรับเด็ก กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
โรคพิษสุนัขบ้า (โรคกลัวน้ำ)
สาเหตุ: การถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัด ข่วน เลียบริเวณที่มีแผลถลอก หรือมีน้ำลายเข้าตา ปาก หรือจมูก
อาการ: ผู้ป่วยจะพบอาการภายใน 15-60 วัน อาจมากถึง 6 เดือน มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-7 วันเมื่อมีอาการทางระบบประสาท
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ไม่รู้จัก และหากถูกกัดควรรีบล้างแผลด้วยสบู่หรือน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งและปรึกษาแพทย์ทันที
การดูแลสุขภาพของลูกน้อยในช่วงหน้าร้อนเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรใส่ใจในเรื่องอาหารที่มีประโยชน์ ความสะอาด และสภาพแวดล้อม เพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้น และหากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
8 โรคฮิตหน้าร้อน อันตรายในเด็ก
โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ
อาการ: ถ่ายเหลวหรือเป็นน้ำ อาจมีไข้และปวดท้องร่วมด้วย
การป้องกัน: ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด และล้างมือก่อนรับประทาน อาหารทุกครั้ง
โรคอาหารเป็นพิษ
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
อาการ: คลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียนและท้องเสีย
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบ ๆ หรืออาหารที่เก็บไว้นาน
โรคบิด
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียหรืออะมีบา
อาการ: ถ่ายบ่อย มีมูกหรือเลือดปน ปวดท้อง และมีไข้
การป้องกัน: รักษาความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม ดื่มน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองหรือต้มสุก
โรคอหิวาตกโรค
สาเหตุ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้ออหิวาตกโรค
อาการ: ถ่ายครั้งละมาก ๆ ไม่มีอาการปวดท้อง รู้สึกกระหายน้ำอ่อนเพลีย ปัสสาวะน้อย ชีพจรเต้นเร็ว ควรให้รับเกลือแร่ป้องกันการช็อก และหมดสติ ในบางรายอาจเสียชีวิตได้
การป้องกัน: รักษาความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหาร
โรคไข้หวัดใหญ่
สาเหตุ: ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอจามรดกัน สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
อาการ: มีไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส ปวดหัว ปวดเบ้าตา ปวดเมื่อยตัว ไอมีเสมหะแต่ไม่มีน้ำมูก อาจเกิดภาวะปอดอักเสบแทรกซ้อน หายใจเหนื่อยหอบได้
การป้องกัน: เนื่องจากมีความอันตรายต่อเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบและผู้สูงวัยบุคคลเหล่านี้ควรรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
โรคไข้อีดำอีแดง (พบได้ในเด็ก 5-15 ปี)
สาเหตุ: สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หรือไอจามรดกัน
อาการ: ไข้สูงประมาณ 38.3 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่า ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียนเจ็บคอ ลิ้นแดงเป็นปุ่มคล้าย สตรอว์เบอร์รี พบผื่นแดงกระจายตัวจากลำตัวไปที่แขนขา แก้มเป็นสีแดง รอบปากจะขาวซีด
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยเนื่องจากโรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก
โรคไข้เลือดออก
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะมากัดผู้ป่วย โดยมีระยะฟักตัวอยู่ที่ 5-8 วัน ก่อนอาการจะแสดงออกอย่างชัดเจน
อาการ: มีไข้สูง 39 องศาขึ้นไป ปวดเมื่อยตามตัว ปวดตา มีจุดเลือดหรือผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย กรณีที่มีอาการรุนแรงจะพบเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ตลอดจนถ่ายและอาเจียนเป็นเลือดได้จึงควรรีบพบแพทย์
การป้องกัน: สวมเสื้อผ้าลูกให้มิดชิด ใช้สารไล่ยุงสำหรับเด็ก กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
โรคพิษสุนัขบ้า (โรคกลัวน้ำ)
สาเหตุ: การถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัด ข่วน เลียบริเวณที่มีแผลถลอก หรือมีน้ำลายเข้าตา ปาก หรือจมูก
อาการ: ผู้ป่วยจะพบอาการภายใน 15-60 วัน อาจมากถึง 6 เดือน มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-7 วันเมื่อมีอาการทางระบบประสาท
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ไม่รู้จัก และหากถูกกัดควรรีบล้างแผลด้วยสบู่หรือน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งและปรึกษาแพทย์ทันที
การดูแลสุขภาพของลูกน้อยในช่วงหน้าร้อนเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรใส่ใจในเรื่องอาหารที่มีประโยชน์ ความสะอาด และสภาพแวดล้อม เพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้น และหากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที