“หลับตื่นให้เป็นเวลา สุขภาพดีกว่าในอนาคต” 12 มีนาคม วันหลับโลก สมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลกได้กำหนดให้วันศุกร์ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมทุกปี เป็นวันนอนหลับโลก (World Sleep Day) ซึ่งในปี 2564 นี้ กำหนดคำขวัญ “Regular Sleep Healthy Future” เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับการนอนหลับ และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการนอน และเป็นโอกาสที่จะเผยแพร่ความรู้และพยายามส่งเสริมสุขภาพด้วยการนอน โดยปีนี้สมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทยร่วมมือกับกรมอนามัยจัดงานวันนอนหลับโลกในประเทศไทย ภายใต้คำขวัญที่ว่า “หลับตื่นให้เป็นเวลา สุขภาพดีกว่าในอนาคต” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงการนอนหลับที่เพียงพอและสุขอนามัยการนอนที่ดีทุกช่วงวัย เนื่องจากการนอนหลับไม่เพียงพอ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ โรคประจำตัว ภาวะภูมิต้านทานต่ำ และเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งพบว่าคนไทยร้อยละ 30 มีปัญหานอนไม่หลับช่วงกลางคืนหรือหลับไม่เพียงพอแบบไม่มีคุณภาพ และร้อยละ 10 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีปัญหาการนอนไม่หลับเรื้อรัง โดยร่วมกันจัดทำคู่มือการนอนหลับเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับประชาชนทุกกลุ่มวัย ส่งเสริมให้มีสุขอนามัยการนอนหลับที่ดี มีระยะเวลาในการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ได้แก่ เด็กก่อนวัยเรียนอายุ 3–5 ปี ควรมีระยะเวลาในการนอน 11-13 ชั่วโมง เด็กวัยเรียนอายุ 5-10 ปี ควรมีระยะเวลาในการนอน 10-11 ชั่วโมง วัยรุ่นอายุ 10–17 ปี ควรมีระยะเวลาในการนอน 8.5-9.5 ชั่วโมง วัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรมีระยะเวลาในการนอน 7-9 ชั่วโมง ที่มาของข้อมูล : https://www.thaipost.net/main/detail/95110