Main Menu
BANGKOK PORTAL

  • ไทย
  • Eng

ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว

ยอ


ยอ ชื่อสามัญNoni, Indian mulberry

ยอ ชื่อวิทยาศาสตร์: Morinda citrifolia L. 

ยอ 
ชื่อวงศ์:
Rubiaceae


ชื่ออื่น ๆ : มะตาเสือ (ภาคเหนือ) แยใหญ่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน ยอ กับ ยอบ้าน (ภาคกลาง)’

ยอ เป็นพืชพื้นเมืองในแถบพอลินีเชียตอนใต้ แล้วแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ ภาษามลายูเรียกเมอกาดู ในหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเรียกโนนู เป็นไม้ยืนต้น “ยอบ้าน” ทางเหนือ เรียก “มะตาเสือ” อีสาน และกลาง เรียก “ยอบ้าน” หรือ “ยอ” ชาวกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน เรียก “แยใหญ่” เป็นไม้มงคล ที่ตำราพรหมชาติชี้แนะว่าไว้ให้ปลูกที่บริเวณบ้านทิศอาคเนย์ หรือตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเคล็ดว่า ผู้คนจะสรรเสริญเยินยอ มีคนยกยอปอปั้นในสิ่งที่ดีงาม เป็นไม้ที่จัดอยู่ในกลุ่มไม้มงคล หมู่บ้านชนบท จะมีปลูกไว้หลายๆ ต้น เป็นไม้ที่ชวนแบ่งปันกัน เพราะใบก็มาก ผลก็มีมาก แบ่งกันเอาไปกิน เพื่อนบ้านกัน ดูน่ารักดีที่สามัคคีเอื้ออาทร

ลักษณะทั่วไป

- ลำต้น จัดเป็นไม้ต้นขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 2-6 เมตร และมีการแตกกิ่งก้านไม่มาก เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา แล้วก็มีการแตกเป็นสะเก็ดก่อนจะหลุด กิ่งอ่อนๆ จะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
- ใบ เป็นประเภทใบเดี่ยว การออกใบจะออกตามข้อของต้นเป็นคู่ๆ ใบมีลักษณะเป็นรูปทรงรี ส่วนปลายของใบจะเป็นติ่งแหลมๆ ขอบใบมีความเป็นคลื่นเล็กๆ โคนใบสอบปนเรียว แผ่นใบจะมีสีเขียวเข้มและหนามัน เส้นกลางใบกับเส้นแขนงเป็นสีเขียวอ่อนเกือบขาว ก้านใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมและมีความสั้น
- ดอก จะมีกลิ่นหอม การออกดอกจะออกเป็นช่อกระจุกตามซอกของใบ ดอกมีขนาดค่อนข้างเล็ก ลักษณะเป็นรูปดอกเข็ม กลีบดอกมีสีขาวจำนวน 5 กลีบ โคนของกลีบจะเป็นรูปท่อแบบเชื่อมติดกัน
- ผล เป็นแบบผลรวมที่เกิดจากช่อดอกเบียดกัน ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือบางทีก็เป็นทรงรี รอบๆ ผลมีตาหรือตุ่ม ผลยามอ่อนเป็นสีเขียว แต่ยามแก่ผลจะออกสีเหลืองหรือขาวนวลๆ ผลมีกลิ่นออกฉุนๆ ไม่หอม
- เมล็ด มีจำนวนมากและเมล็ดมีสีน้ำตาลเข้มเกือบไหม้ 

 

วิธีการปลูกและการขยายพันธ์ุ

1.ทำได้โดย การบีบเมล็ดออกจากผลที่สุก จากนั้นให้ล้างเมล็ดด้วยน้ำและกรองเอาเมล็ดออก ต่อไปนำเมล็ดไปตากแห้งสัก 3-5 วัน
2.แล้วจึงจะนำไปเพาะในถุงเพาะชำจนต้นงอกและมีความสูงได้ประมาณ 30 เซนติเมตร จึงนำไปลงปลูก (หมายเหตุ: จะต้องใช้เมล็ดจากผลสีขาวซึ่งสุกจัดที่ร่วงจากต้น)
3.ก่อนจะนำต้นกล้าลงดิน ควรจะมีการปรับสภาพดินไม่ให้เป็นหลุมเป็นบ่อและให้ง่ายต่อการทำความสะอาดกับกำจัดวัชพืช (ข้อระบุ: ต้นพืชชนิดนี้สามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด)

วิธีการดูแล
     โรคพืชและแมลงศัตรูพืช ส่วนเรื่องโรคและแมลงนั้นไม่ค่อยจะมีปัญหามากนัก เพราะเป็นไม้ที่ค่อนข้างมีความทนทาน

ประโยชน์และสรรพคุณ 

     ด้านคุณประโยชน์ก็ต้องบอกว่า ยอ เป็นพืชที่มีประโยชน์และสรรพคุณหลายอย่างจริงๆ ซึ่งตามข้อมูลของเว็บไซต์ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ได้บอกเกี่ยวกับสรรพคุณทางยาไว้เป็นต้นว่า
- ใบ มีคุณสมบัติด้านการบำรุงสายตา เนื่องจากมีวิตามินเอจำนวนมาก แล้วก็ช่วยบำรุงหัวใจ หากคั้นเอาน้ำสามารถใช้ทาแก้โรคเก๊าท์ แก้ปวดตามข้อนิ้วมือนิ้วเท้า ฆ่าเหา แก้กระษัย แก้ท้องร่วง และใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย 
- ราก เป็นยาระบาย แก้กระษัย สามารถสกัดสีเพื่อใช้เป็นสีย้อมผ้าได้
- ผลที่โตเต็มที่แต่ไม่สุก สามารถรับประทานจิ้มน้ำพริกได้ แล้วยังเป็นยาขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยบำรุงธาตุ ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยขับเลือดลม ขับโลหิตประจำเดือน และแก้เหงือกเปื่อยเป็นขุมบวม 
- ผลดิบ ใช้แก้อาการอาเจียนของหญิงมีครรภ์ 

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผลิตผลของ ยอ ได้ออกสู่ท้องตลาดอย่างเป็นที่แพร่หลายมานานหลายปี ซึ่งก็คือ น้ำลูกยอ สรรพคุณที่โดดเด่น อาทิ

  • ช่วยบำรุงหัวใจ
  • กระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด
  • ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ลดความเสื่อมสภาพของเซลล์ ยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้
  • ช่วยขยายและเพิ่มความแข็งแรงให้หลอดเลือด
  • ลดไขมันส่วนเกิน
  • ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร
  • ทำให้ผ่อนคลายกับนอนหลับได้เป็นอย่างดี เป็นต้น