ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
เชอรี่ไทย
เชอรี่ไทย ชื่อสามัญ : Barbados cherry
สรุปลักษณะและข้อมูลพันธุ์ไม้ : เป็นไม้พุ่มแตกกิ่งก้าน ส่วนใหญ่จะปลูกเป็น ไม้ประดับ
ใบ เป็นใบเดี่ยวแผ่นค่อนข้างกลม ปลายใบ แหลม ใบด้านบนสีแก่ด้านท้องใบสีอ่อน
ดอก กลีบดอกหยักชมพูเข้ม
ผล รูปร่างกลมห้อยลง แยกออกเป็น 3 พูใหญ่ ภายในแต่ละพูมีเมล็ด 1 เมล็ด เมื่อยังดิบผิวผลสีเขียว อ่อน เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดง ผลนิ่ม มีเมล็ด แข็ง ๆ 1 เมล็ด
ประโยชน์ :
2. ลูกเชอร์รีไทยที่สุกพร้อมกิน มีวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน และ แคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นญาติของ วิตามินเอ มากชนิด
3. เชอรี่ไทยมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชนิดพิเศษ ได้แก่ กลุ่มโพลีฟีนอลส์ ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแบบเดียวกับไวน์องุ่นราคาแพงนั่นคือ “เรสเวอราทรอล”
4. เชอร์รีไทยมีสารเคมี ลดน้ำตาล ตัวช่วยอ่อนหวานตัวนี้มีชื่อว่า คลอโรจีนิก (Chlorogenic acid) เป็นกรดตัวหนึ่งในลูกไม้เปรี้ยวนี้ ช่วยคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 (เบาหวานในผู้ใหญ่)
5. เชอร์รีไทยมีแร่ธาตุสำคัญ อย่าง โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงหัวใจ และปรับสมดุลให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีโลหิตจางด้วย
6.ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน โรคโลหิตจาง มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ
การกินเชอร์รีไทยสด ๆ กับพริกเกลือ หรือปั่นเป็นสมูทตี้ก็ชื่นใจได้ประโยชน์ไปอีกนะคะ ยังไม่หมดแค่นี้ เชอรี่ไทยยังถือเป็นผลไม้แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เพราะมีสารช่วยสร้าง “สมอง” และระบบประสาทให้ลูกน้อยตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง ช่วยป้องกันปัญหาไขสันหลังเปิด หรือโรคที่มีผลต่อสติปัญญาแต่กำเนิดได้อีกด้วย
6.
เชอรี่ไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ : Malpighiaglabra L. ชื่อวงศ์ : MALPIGHIACEAEเชอรี่ไทย ชื่อสามัญ : Barbados cherry
สรุปลักษณะและข้อมูลพันธุ์ไม้ : เป็นไม้พุ่มแตกกิ่งก้าน ส่วนใหญ่จะปลูกเป็น ไม้ประดับ
ใบ เป็นใบเดี่ยวแผ่นค่อนข้างกลม ปลายใบ แหลม ใบด้านบนสีแก่ด้านท้องใบสีอ่อน
ดอก กลีบดอกหยักชมพูเข้ม
ผล รูปร่างกลมห้อยลง แยกออกเป็น 3 พูใหญ่ ภายในแต่ละพูมีเมล็ด 1 เมล็ด เมื่อยังดิบผิวผลสีเขียว อ่อน เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดง ผลนิ่ม มีเมล็ด แข็ง ๆ 1 เมล็ด
ประโยชน์ :
เชอร์รีไทย หรือ อะเซโรล่าเชอร์รี (Acerola cherry) มีประโยชน์ดังนี้
1. เชอร์รีไทยมีวิตามินซีธรรมชาติในปริมาณสูงมาก มากกว่าส้มสดถึง 65 เท่า เชอร์รีไทย 1 ขีด เทียบเท่ากับส้มนับสิบ ๆ ลูก2. ลูกเชอร์รีไทยที่สุกพร้อมกิน มีวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน และ แคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นญาติของ วิตามินเอ มากชนิด
3. เชอรี่ไทยมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชนิดพิเศษ ได้แก่ กลุ่มโพลีฟีนอลส์ ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแบบเดียวกับไวน์องุ่นราคาแพงนั่นคือ “เรสเวอราทรอล”
4. เชอร์รีไทยมีสารเคมี ลดน้ำตาล ตัวช่วยอ่อนหวานตัวนี้มีชื่อว่า คลอโรจีนิก (Chlorogenic acid) เป็นกรดตัวหนึ่งในลูกไม้เปรี้ยวนี้ ช่วยคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 (เบาหวานในผู้ใหญ่)
5. เชอร์รีไทยมีแร่ธาตุสำคัญ อย่าง โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงหัวใจ และปรับสมดุลให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีโลหิตจางด้วย
6.ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน โรคโลหิตจาง มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ
การกินเชอร์รีไทยสด ๆ กับพริกเกลือ หรือปั่นเป็นสมูทตี้ก็ชื่นใจได้ประโยชน์ไปอีกนะคะ ยังไม่หมดแค่นี้ เชอรี่ไทยยังถือเป็นผลไม้แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เพราะมีสารช่วยสร้าง “สมอง” และระบบประสาทให้ลูกน้อยตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง ช่วยป้องกันปัญหาไขสันหลังเปิด หรือโรคที่มีผลต่อสติปัญญาแต่กำเนิดได้อีกด้วย