Main Menu
BANGKOK PORTAL

  • ไทย
  • Eng

บทความน่ารู้

วันนี้วันพระ
วันนี้วันพระ
ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ.
บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
( พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/ ๓๓๓.

พุทธภาษิตนี้สอนเรื่องกฎแห่งกรรมผ่านการเปรียบเทียบกับการเกษตร
ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่ายเหมือนชาวนาที่หว่านข้าว ก็จะได้ผลเป็นข้าว
หว่านถั่ว ก็จะได้ผลเป็นถั่วไม่มีทางที่จะหว่านข้าวแล้วได้ผลเป็นถั่วหรือหว่านถั่วแล้วได้ผลเป็นข้าว

เช่นเดียวกับการกระทำของมนุษย์
เมื่อเราทำความดี ผลที่ตามมาย่อมเป็นสิ่งดี เมื่อเราทำความชั่ว ผลที่ตามมาย่อมเป็นสิ่งชั่ว
ไม่มีการกระทำใดที่สูญเปล่า ทุกการกระทำล้วนมีผลตอบสนองและผลตอบแทน

หลักธรรมนี้สอนให้เราตระหนักว่า เราเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตัวเองผ่านการกระทำ
เปรียบเสมือนชาวนาที่เลือกหว่านเมล็ดพันธุ์เราเองก็เป็นผู้เลือกหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งกรรม
จะหว่านความดีหรือความชั่วก็อยู่ที่การตัดสินใจของเรา

การดำเนินชีวิตให้เกิดผลดี จึงต้องเริ่มจากการ "หว่าน" หรือ "ทำ" ในสิ่งที่ดี
เช่น มีจิตเมตตากรุณาต่อผู้อื่น ประพฤติตนเป็นสุจริตชน

เมื่อเราเข้าใจหลักการนี้ การตัดสินใจในชีวิตจะมีความรอบคอบมากขึ้น
เพราะรู้ว่าทุกการกระทำมีผล เหมือนการหว่านพืชต้องรอเวลาให้เมล็ดงอกและเติบโต
ผลของการกระทำอาจไม่เห็นทันที แต่ท้ายที่สุดจะปรากฏในเวลาที่เหมาะสม

พุทธภาษิตบทนี้ยังสอนให้เรามีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง
รู้จักเลือกทำในสิ่งที่ดี เพื่อให้ได้รับผลที่ดีตอบแทน
เป็นหลักธรรมที่ช่วยให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีสติ
และมุ่งมั่นในการสร้างความดีอย่างต่อเนื่อง
เมื่อหมั่นทำดี ย่อมได้รับผลดีตอบแทน
เหมือนชาวนาที่หว่านข้าวดี ก็ย่อมได้ข้าวงามตอบแทน
วันพระจึงเป็นโอกาสอันประเสริฐในการสร้างกุศลผลบุญที่จะส่งผลดีต่อชีวิตของเราค่ะ