Main Menu
BANGKOK PORTAL

  • ไทย
  • Eng

บทความน่ารู้

๒๖มิถุนายน วันสุนทรภู่
#สาระน่ารู้ #๒๖มิถุนายน #วันสุนทรภู่
---
*กำเนิดสุนทรภู่
*สู่ชีวิตในรั้ววัง
*หันเข้าบวรพระศาสนา
*ตำนานกาพย์ กลอน สุภาษิต
*กลับคืนถิ่นสุขาวดี
*กวีเอกยูเนสโก
---
กำเนิดสุนทรภู่
บันทึกส่วนใหญ่มักระบุถึงต้นตระกูลของสุนทรภู่เพียงว่า บิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ตระกูลฝ่ายมารดาของสุนทรภู่เป็นชาวเมืองเพชรบุรี

สุนทรภู่ มีชื่อเดิมว่า ภู่ เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙
ในสมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง
ซึ่งเป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบันนี้
.
สู่ชีวิตในวัง
เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำอันเป็นภูมิลำเนาเดิม
ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล
พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้น สุนทรภู่ จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา
และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง
เมื่อเติบโตขึ้น ก็ได้เริ่มทำหน้าที่เป็น "กวี" ในราชสำนักโดยเฉพาะใน รัชกาลที่ ๒ ซึ่งทรงโปรดวรรณศิลป์
และทรงส่งเสริมกวีเป็นอย่างมาก และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระสุนทรโวหาร"
กลายเป็นกวีเอกที่ทุกคนให้การยอมรับ
.
หันเข้าบวรพระศาสนา
สุนทรภู่รับราชการอยู่เพียง ๘ ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๓๖๗ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต
สุนทรภู่ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและได้เดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงแต่ง "นิราศ"
ซึ่งเล่าการเดินทางและความรู้สึกไว้ นิราศของสุนทรภู่จึงมีทั้งแง่คิด ศิลปะ และภาพชีวิตไทยในอดีตอย่างลึกซึ้ง
งานเขียนชิ้นสุดท้ายที่ภิกษุภู่แต่งไว้ก่อนลาสิกขาบท คือ รำพันพิลาป โดยแต่งขณะจำพรรษา
อยู่ที่วัดเทพธิดาราม พ.ศ. ๒๓๘๕
.
ตำนานกาพย์ กลอน สุภาษิต
สุนทรภู่มีผลงานหลากหลาย เช่น พระอภัยมณี (วรรณคดีเรื่องยาว) นิราศเมืองแกลง, นิราศภูเขาทอง (นิราศเดินทาง)
สุภาษิตสอนหญิง (กลอนสอนใจ) รำพันพิลาป (กลอนแสดงความทุกข์ในชีวิต) นิราศพระประธม, นิราศเมืองเพชร
กลอนของท่านโดดเด่นด้วยความไพเราะ ใช้ภาษาเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง มีความคิดคติสอนใจ
จึงถูกนำมาใช้เป็นแบบเรียนไทยมาอย่างยาวนาน
.
กลับคืนถิ่นสุขาวดี
สุนทรภู่พำนักอยู่ในเขตพระราชวังเดิม ใกล้หอนั่งของพระยามนเทียรบาล (บัว) ถึงแก่อนิจกรรมในสมัยรัชกาลที่ ๔
เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๘ รวมอายุได้ ๖๙ ปีท่านจากไปพร้อมชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ และกลายเป็นตำนานของกวีไทยตลอดกาล
.

กวีเอกยูเนสโก
ปี พ.ศ. ๒๕๒๙
ในโอกาสครบรอบวันเกิด ๒๐๐ ปีของสุนทรภู่
องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้สุนทรภู่เป็นบุคคลสำคัญ
ของโลกทางด้านวรรณกรรม
นับเป็นชาวไทยคนที่ ๕ และเป็นสามัญชนชาวไทยคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้
ในปีนั้น สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์จึงได้จัดพิมพ์เผยแพร่หนังสือ
"อนุสรณ์สุนทรภู่ ๒๐๐ ปี" และมีการจัดตั้งสถาบันสุนทรภู่ขึ้นเพื่อส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแพร่ชีวิตและผลงาน
ของสุนทรภู่ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
สุนทรภู่ได้กลายเป็นแบบอย่างของกวีไทยที่รักภาษาไทย
อย่างแท้จริง
ท่านได้สร้างสรรค์วรรณกรรมที่เป็นทั้งความบันเทิง ความรู้ และบทเรียนชีวิต
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๐
นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้จัดตั้งสถาบันสุนทรภู่ขึ้น
และกำหนดให้วันที่ ๒๖ มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสุนทรภู่
นับแต่นั้นทุก ๆ ปีเมื่อถึงวันสุนทรภู่
จะมีการจัดงานรำลึกถึงสุนทรภู่ตามสถานที่ต่าง ๆ
เช่น ที่พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ วัดเทพธิดาราม และที่จังหวัดระยอง รวมถึงการประกวดแต่งกลอน
ประกวดคำขวัญ และการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับสุนทรภู่ในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ
.
ในปัจจุบัน หลายคำกล่าวของท่านกลายเป็น "สุภาษิตไทย" ที่คนรุ่นหลังยังใช้จนถึงปัจจุบัน เช่น
"รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"
"อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย"

#สุนทรภู่ #ความรู้ใหม่ใกล้ฉัน #ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้วัดรัชฎาธิษฐานฯ