Main Menu
ไทย
Eng
ติดต่อเรา
โพลล์สำรวจ
สมัครสมาชิกห้องสมุด
Facebook
Youtube
หน้าหลัก
ข้อมูลห้องสมุด
ประวัติห้องสมุด
วิสัยทัศน์ พันธกิจ
การสมัครสมาชิกห้องสมุด
ระเบียบการใช้ห้องสมุด
บริการ
หนังสือและสิ่งพิมพ์
ตู้ล็อกเกอร์
ฟรีอินเตอร์เน็ต
หนังสือและสิ่งพิมพ์
นิตยสาร วารสารใหม่
หนังสือแนะนำสำหรับเด็กและเยาวชน
หนังสือ 1เขต 1 วรรณกรรม
บทความ
บทความน่ารู้
ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ข่าวสาร/กิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์ห้องสมุด
ปฏิทินกิจกรรม
ระบบสืบค้นหนังสือ
ถาม ตอบ
ร่วมตอบแบบสอบถาม
บรรณนิทัศน์ออนไลน์
E-Books
หน้าแรก
บทความ
บทความน่ารู้
บทความน่ารู้
กลับไปหน้าหลัก
อนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions)
#สาระน่ารู้ #อนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions)
กฎแห่งความเป็นมนุษย์ท่ามกลางสมรภูมิ
---
ตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ “สงคราม” เป็นเงาตามตัวของการแย่งชิง อำนาจ และอุดมการณ์
แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด ความขัดแย้งก็ยังคงทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดไว้ทุกยุคทุกสมัย
แต่ในห้วงเวลาอันมืดมนเหล่านั้นก็มีความพยายามของมนุษย์ในการรักษา
"ศักดิ์ศรีของการที่จะมีชีวิต"เอาไว้ไม่ให้เลือนหาย
และหนึ่งในสิ่งที่เกิดขึ้นจากความพยายามนั้น ก็คือ “อนุสัญญาเจนีวา”
.
จุดเริ่มต้นจากเสียงครวญครํ่าสู่หลักการแห่งมนุษยธรรม
ต้นกำเนิดของอนุสัญญานี้ย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1859เมื่อ อ็องรี ดูนังต์ (Henry Dunant) นักธุรกิจชาวสวิส
ได้พบเห็นสภาพอันน่าสะเทือนใจของเหล่าทหารบาดเจ็บที่ถูกทอดทิ้งหลังสมรภูมิที่เมืองซอลเฟริโน (Solferino) ประเทศอิตาลี
"ไม่มีใครช่วย ไม่มีหน่วยแพทย์ ไม่มีระบบพยาบาลที่เป็นกลาง"
เขาจึงเริ่มต้นลงมือทำด้วยตนเองก่อนในการใช้ทรัพย์สินส่วนตัวตั้งโรงพยาบาลสนามและช่วยชีวิตผู้คนโดยไม่สนว่าเป็นฝ่ายใด
นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดที่ว่าทุกชีวิตในสงคราม "สมควรได้รับการรักษา"
ซึ่งต่อมาแนวคิดนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานของการจัดตั้งคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)
และนำไปสู่การร่างข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อรับรองหลักมนุษยธรรมในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ
.
อนุสัญญาเจนีวาข้อตกลงร่วมของมวลมนุษยชาติ
ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1864 ที่นครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รัฐต่าง ๆ ในยุโรปจำนวน 12 ประเทศ
ได้ร่วมลงนามใน อนุสัญญาเจนีวาฉบับแรกจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ได้มีการเพิ่มเติมและขยายขอบเขตความคุ้มครอง
ในอีกหลายฉบับ โดยทั้งหมดสามารถแบ่งได้เป็น
.
อนุสัญญา 4 ฉบับหลัก
1. ฉบับที่ 1: การคุ้มครองทหารบาดเจ็บและป่วยในสนามรบ
2. ฉบับที่ 2: การคุ้มครองทหารบาดเจ็บในสงครามทางทะเล
3. ฉบับที่ 3: สิทธิของเชลยศึกและการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุม
4. ฉบับที่ 4: การคุ้มครองพลเรือนในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง
พิธีสารเพิ่มเติม 3 ฉบับ
1. พิธีสารที่ 1: การคุ้มครองพลเรือนและสิ่งอำนวยความสะดวกในสงครามระหว่างประเทศ
2. พิธีสารที่ 2: การคุ้มครองในกรณีความขัดแย้งภายในประเทศ เช่น สงครามกลางเมือง
3. พิธีสารที่ 3: การยอมรับเครื่องหมายพิเศษทางการแพทย์นอกเหนือจากกาชาด เช่น เสี้ยวพระจันทร์แดง
.
ประเทศไทยกับอนุสัญญาเจนีวา
ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันและเข้าร่วมเป็นภาคีในทั้ง 4 ฉบับหลักของอนุสัญญาเจนีวา เมื่อปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955)
ซึ่งแสดงถึงการยอมรับหลักมนุษยธรรมและการให้ความคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในระดับสากล
.
สาระสำคัญของอนุสัญญาเจนีวา(สรุป 3 ข้อหลัก)
1. ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยไม่เลือกฝ่ายทหารและพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม
ต้องได้รับการรักษาและดูแลอย่างเท่าเทียมไม่ว่าพวกเขาจะสังกัดฝ่ายใด
2. คุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์แพทย์ พยาบาล หน่วยกู้ภัย และสถานพยาบาลต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี
เครื่องหมายกาชาดและอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต้องได้รับความปลอดภัยในการเข้าถึงสนามรบ
3. ห้ามทำร้ายผู้ไม่มีอาวุธ พลเรือน เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ยอมจำนนแล้ว
ไม่ควรถูกทำร้ายหรือกักขังโดยไม่มีเหตุผลที่ชอบธรรม และต้องได้รับความคุ้มครองตลอดช่วงความขัดแย้ง
.
แม้ว่าอนุสัญญาเจนีวาจะเป็นข้อตกลงที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
แต่ในทางปฏิบัติจริง หลายครั้งก็พบว่ามักจะมีการละเมิดกฎอยู่เสมอและการลงโทษต่อผู้กระทำผิด
มักขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศหรือการพิจารณาของศาลระหว่างประเทศ
เช่น ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)
อย่างไรก็ดี
การมีอยู่ของอนุสัญญาเจนีวานี้ไม่ได้ทำให้สงครามหมดไป แต่อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า
“มนุษย์ยังไม่ยอมจำนนต่อความป่าเถื่อน” เป็นเหมือนเข็มทิศที่ชี้ทางแม้ในยามที่โลกไร้ความเมตตา
เรายังคงยึดถือคุณค่าของความเป็นมนุษย์เอาไว้ได้...
#TruthFromThailand
#ความรู้ใหม่ใกล้ฉัน#สาระน่ารู้กับห้องสมุดฯวัดรัชฎาธิษฐานฯ
แชร์