Main Menu
BANGKOK PORTAL

  • ไทย
  • Eng

บทความน่ารู้

วันนี้วันพระ
#สาระน่ารู้ #วันนี้วันพระ
---
ธรรมะสวัสดี
อ่านธรรมะเตือนใจในวันอันเป็นมงคล
ในโลกที่เต็มไปด้วยผู้คนมากล้นไปด้วยความคิดเห็นที่หลากหลาย คงไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยต้องเผชิญกับคำพูด
ทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย ไม่ว่าจะเป็นคำชื่นชมสรรเสริญ หรือคำตำหนิติเตียน นินทาว่าร้าย
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่ทุกคนต้องประสบพบเจอ
ดั่งพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า
นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
พุทธพจน์บทนี้  เป็นเครื่องเตือนสติให้เราเข้าใจสัจธรรมของชีวิตว่า "การนินทาและสรรเสริญเป็นของคู่โลก"
ไม่ว่าเราจะทำตัวเช่นไร ก็ไม่อาจหลีกหนีจากคำวิจารณ์ของผู้อื่นได้พ้น
โดยพุทธภาษิตนี้มีที่มาจากเรื่องราวของอตุลอุบาสกและคณะผู้ติดตาม ๕๐๐ คน
ที่ตั้งใจไปฟังธรรมจากพระเถระแต่กลับไม่สมดังใจหวัง
เมื่อไปหา พระเรวตะ ผู้ยินดีในความสงบ ท่านก็นั่งนิ่งไม่กล่าวอะไร
อตุลอุบาสกก็ไม่พอใจและนินทาว่าท่านไม่ยอมแสดงธรรม
เมื่อไปหา พระสารีบุตร ท่านกลับแสดงธรรมชั้นสูงอย่างละเอียดลึกซึ้ง (อภิธรรม)
อตุลอุบาสกก็ไม่พอใจอีก กล่าวว่าท่านพูดมากเกินไปจนไม่สามารถเข้าใจได้
สุดท้ายเมื่อไปหา พระอานนท์ ท่านจึงแสดงธรรมแต่พอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป
แต่ถึงกระนั้น อตุลอุบาสกก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
เมื่ออตุลอุบาสกได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าและกราบทูลเรื่องราวทั้งหมด
พระองค์จึงตรัสสอนว่า "อตุละเอ๋ย เรื่องนี้มีมาแต่โบราณแล้ว มิใช่เพิ่งมีในวันนี้ คนจะนินทาแม้แต่ผู้นั่งนิ่ง
คนจะนินทาแม้แต่ผู้พูดมาก และคนจะนินทาแม้แต่ผู้พูดน้อย คนที่ไม่ถูกนินทาเลยนั้นไม่มีในโลก"
คำสอนของพระพุทธองค์สะท้อนให้เห็นถึง โลกธรรม ๘ หรือ ธรรมดาของโลก ๘ ประการ
ที่ทุกคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ
* มีลาภ - เสื่อมลาภ
* มียศ - เสื่อมยศ
* มีสรรเสริญ - มีนินทา
* มีสุข - มีทุกข์
เมื่อมีคนชื่นชมสรรเสริญ ก็ย่อมมีคนตำหนินินทาเป็นธรรมดา
แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุดยังไม่พ้นจากคำครหาของคนพาล
แล้วนับประสาอะไรกับปุถุชนคนธรรมดาอย่างเรา
เมื่อเข้าใจสัจธรรมข้อนี้เเล้วสิ่งที่เราควรทำไม่ใช่การพยายามทำให้ทุกคนพอใจ
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่คือการกลับมามองที่ "ใจ" ของเราเอง
เริ่มจากการยอมรับความจริง ทำความเข้าใจว่าคำนินทาเป็นเรื่องธรรมดาของโลก
เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนสายลม
หากคำนินทานั้นเป็นเรื่องจริง ให้รับฟังและนำมาปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดียิ่งขึ้น
แต่หากเป็นเรื่องไม่จริงก็อย่าเก็บมาใส่ใจให้เป็นทุกข์พร้อมปล่อยวาง
เพราะเราไม่สามารถห้ามความคิดหรือคำพูดของใครได้
แต่เราเลือกได้ที่จะไม่เก็บคำพูดเหล่านั้นมาทำร้ายตัวเอง การ "ปล่อยวาง" จะทำให้จิตใจของเราสงบและไม่ขุ่นมัว
อย่าลืมว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การกระทำของเราเอง หากเรามั่นใจว่ากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม มีศีลธรรม
ก็จงทำต่อไปอย่างมั่นคง อย่าให้คำพูดของใครมาบั่นทอนความตั้งใจดีของเรา
ในวันพระอันเป็นมงคลนี้
ขอให้ทุกท่านได้นำธรรมะข้อนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อการมีจิตใจที่เข้มแข็ง สงบ และเป็นสุข สามารถดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางโลกธรรมได้อย่างไม่ทุกข์ใจ
ขอเจริญในธรรม