Main Menu
ไทย
Eng
ติดต่อเรา
โพลล์สำรวจ
สมัครสมาชิกห้องสมุด
Facebook
Youtube
หน้าหลัก
ข้อมูลห้องสมุด
ประวัติห้องสมุด
วิสัยทัศน์ พันธกิจ
การสมัครสมาชิกห้องสมุด
ระเบียบการใช้ห้องสมุด
บริการ
หนังสือและสิ่งพิมพ์
ตู้ล็อกเกอร์
ฟรีอินเตอร์เน็ต
หนังสือและสิ่งพิมพ์
นิตยสาร วารสารใหม่
หนังสือแนะนำสำหรับเด็กและเยาวชน
หนังสือ 1เขต 1 วรรณกรรม
บทความ
บทความน่ารู้
ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ข่าวสาร/กิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์ห้องสมุด
ปฏิทินกิจกรรม
ระบบสืบค้นหนังสือ
ถาม ตอบ
ร่วมตอบแบบสอบถาม
บรรณนิทัศน์ออนไลน์
E-Books
หน้าแรก
บทความ
บทความน่ารู้
บทความน่ารู้
กลับไปหน้าหลัก
บ้านนี้ไม่เทรวม
#กรุงเทพฯ ดีขึ้นทุกวัน
#สาระน่ารู้
--------------------------------------------
"เทรวม" = "สร้างปัญหา"
ทำไมถึงต้องเเยกขยะก่อนทิ้งกันนะ?
เคยยืนอยู่หน้าถังขยะ แล้วรู้สึกว่า "ทิ้งๆ ไปเถอะ เดี๋ยวเขาก็ไปแยกเองมั้ย?
.
รู้หรือไม่ว่าพี่ๆพนักงานเก็บขยะ
ไม่สามารถคัดแยกขยะที่ปนเปื้อนกันเละเทะได้ทั้งหมด
ดังนั้น การที่เราทิ้งเศษอาหารลงไปปะปนกับขวดพลาสติก หรือทิ้งถ่านไฟฉายลงไปรวมกับถุงขนม
พฤติกรรมข้างต้นนั้น ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ "วิกฤตขยะ"
เพราะการทิ้งขยะแบบ "รวมมิตร" ในถุงเดียว ไม่เพียงแต่ทำให้ขยะดีๆ ที่ควรจะรีไซเคิลได้
นั้นกลายเป็นขยะเน่าเสีย แถมยังสร้างภาระมหาศาลให้กับบ่อฝังกลบ
ส่งกลิ่นเหม็นและปล่อยสารพิษลงสู่ดินและน้ำ
แต่ข่าวดีคือ
เราแก้ปัญหานี้ได้ง่ายกว่าที่คิด ด้วยการ "แยกขยะ" ที่บ้านของเราเอง
วันนี้แอดจะมาทำความรู้จัก ขยะ 4 สี 4 ประเภท
เบื้องต้นกันเถอะ
1. ขยะเปียก (ขยะอินทรีย์)
เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่คือ "เศษอาหาร" เช่น เปลือกผลไม้, เศษผัก, เนื้อสัตว์, กากกาแฟ, ใบไม้
เพราะหากขยะเปียกไปปนกับขยะอื่น มันจะส่งกลิ่นเหม็นเน่า เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และที่สำคัญคือ
ทำให้ขยะรีไซเคิลสกปรก จนขายต่อหรือนำไปรีไซเคิลไม่ได้
รีไซเคิลขยะประภทนี้ ส่วนมากจะนำไปทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพ (EM) หรือเป็นอาหารสัตว์
2. ขยะรีไซเคิล (ขยะที่ขายได้)
เป็นวัสดุที่เราใช้แล้ว แต่ยังสามารถนำกลับมาแปรรูปเป็นของใหม่ได้ตัวอย่าง
เช่น ขวดพลาสติกใส (PET), กระดาษ, แก้ว, กระป๋องอลูมิเนียม, โลหะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น "ขุมทรัพย์" ในถังขยะ
ที่สามารถสร้างรายได้ ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ในการผลิต เเต่ควรทำให้ "สะอาดและแห้ง" ก่อนทิ้ง เพื่อให้รีไซเคิลได้ง่าย
3. ขยะทั่วไป
คือ ขยะที่ "ไม่เปียก" และ "รีไซเคิลไม่ได้" (หรือไม่คุ้มค่า) มักเป็นขยะที่ย่อยสลายยากเช่น ซองขนม, หลอด, กล่องโฟม,
ทิชชู่ใช้แล้ว, ภาชนะเปื้อนอาหาร (ที่ล้างไม่ออก) โดยแยกออกจากขยะเปียกและขยะรีไซเคิล
เพื่อนำไปจัดการ (ฝังกลบหรือเผาเป็นพลังงาน) ได้อย่างถูกวิธี
ส่วนใหญ่ถูกนำไปฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ หรือนำไปผลิตเป็นพลังงาน (Waste-to-Energy)
4. ขยะอันตราย
เป็นขยะที่มีสารพิษ สารเคมีอันตราย หรือติดเชื้อเช่น ถ่านไฟฉาย, แบตเตอรี่, หลอดไฟ,
กระป๋องสเปรย์, ยาหมดอายุ, ภาชนะใส น้ำยาเคมี
ขยะอันตรายพวกนี้ห้ามทิ้งรวมเด็ดขาด! เพราะสารพิษจากขยะสามารถปนเปื้อนลงดินและแหล่งน้ำ
ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมต้องนำไปกำจัดด้วยวิธีเฉพาะทางที่ปลอดภัยเท่านั้น
.
สถิติสำคัญที่ทำให้ต้อง "แยกขยะ" เดี๋ยวนี้!
ถ้าการ "ทำเพื่อโลก" ยังไม่จูงใจพอ ลองมาดู "ตัวเลขแบบเรียลๆ" ที่น่าตกใจเกี่ยวกับขยะในประเทศไทย
โดยข้อมูลอ้างอิงจากกรมควบคุมมลพิษและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
ในปี 2566
คนไทยสร้างขยะมูลฝอยรวมกันมากถึง 26.95 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า)โดยขยะในถังของเราเกือบครึ่ง
หรือประมาณ 46% ของขยะทั้งหมด คือ "ขยะเปียก" (เศษอาหาร/ขยะอินทรีย์)
และแม้ขยะที่รีไซเคิลได้จะมีสัดส่วนสูงถึง 42% แต่ในความเป็นจริง ขยะถูกนำกลับไปใช้ประโยชน์ (รีไซเคิล)
ได้เพียง 34.5% เท่านั้น ที่เหลืออีก 28% (หรือประมาณ 7.47 ล้านตัน) ถูกนำไป "กำจัดอย่างไม่ถูกต้อง"
เช่น เทกอง, เผากลางแจ้ง ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษ
.
เห็นความจริงอะไรบ้างเเล้วใช่มั้ยคะ?
สรุป ก็คือ พบว่า"ขยะเปียก" (46%) ไปปนเปื้อนจน "ขยะรีไซเคิล" (42%) จนใช้งานต่อไม่ได้นั่นเองค่ะ
ดังนั้น แค่เราเริ่มต้นแยก "ขยะเปียก" (เศษอาหาร) ออกมาเพียงถังเดียว ขยะที่เหลือ (พลาสติก, กระดาษ)
ก็จะสะอาดพอที่จะส่งไปรีไซเคิลได้เกือบทั้งหมด ง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ
แชร์