Main Menu
BANGKOK PORTAL

  • ไทย
  • Eng

บทความน่ารู้

๑๘ มกรา "วันยุทธหัตถี"กู้เกียรติยศชาติไทย
วันยุทธหัตถี - วันแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย
************************************************************************
วันยุทธหัตถี ตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ 
เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชาแห่งพม่า ในปี พ.ศ. ๒๑๓๕

- เหตุการณ์ก่อนการยุทธหัตถี
ในช่วงปี พ.ศ. ๒๑๓๓ - ๒๑๓๕ พม่าได้ยกทัพใหญ่เข้ามารุกรานกรุงศรีอยุธยาหลายครั้ง 
โดยมีพระมหาอุปราชาเป็นแม่ทัพใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำทัพออกต่อต้าน
และขับไล่ทัพพม่าจนต้องล่าถอยกลับไปหลายครั้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๑๓๕ 
พม่าได้ยกทัพใหญ่มาอีกครั้งหนึ่ง

- การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ
ในวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๑๓๕ ขณะที่กองทัพไทยและพม่าปะทะกันที่ตำบลหนองสาหร่าย 
แขวงเมืองสุพรรณบุรี (ปัจจุบันคือบริเวณอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี) 
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงช้างพระที่นั่งชื่อ "เจ้าพระยาไชยานุภาพ" 
ได้แผลงศรถูกพระมหาอุปราชา แต่ไม่ถึงแก่พระชนม์ 

- การประกาศกร้าว
ในขณะนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงประกาศท้าพระมหาอุปราชาให้ทำยุทธหัตถี โดยมีพระราชดำรัสอันเป็นที่จดจำว่า 
                     "พี่เอย พี่จะหนีไปไย มาเถิด มาทำสงครามกันให้แล้วแก่กัน ครั้งนี้จะได้ไม่ต้องมาตีกันอีกต่อไป"

- การทำยุทธหัตถี
เมื่อพระมหาอุปราชาได้ยินคำท้า ก็ทรงรับคำและควบช้างเข้าประชิด ทั้งสองพระองค์ได้ทรงดาบต่อสู้กันบนหลังช้าง 
ในที่สุด สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงฟันพระมหาอุปราชาขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์บนคอช้าง

- ผลของชัยชนะ
การสิ้นพระชนม์ของพระมหาอุปราชาทำให้ทัพพม่าเสียขวัญและแตกพ่ายไป ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการกู้เอกราชของชาติไทย 
และเป็นการยุติการรุกรานของพม่าเป็นเวลานาน ทำให้กรุงศรีอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองต่อมาอีกหลายสิบปี

- การระลึกถึงในปัจจุบัน
ปัจจุบัน มีการสร้างพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ที่อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะครั้งนี้ 
และมีการจัดงานเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมกราคม โดยมีการจัดแสดงแสง สี เสียง การแสดงละครประวัติศาสตร์ 
และกิจกรรมต่างๆ เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

- ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
วันยุทธหัตถีถือเป็นวันสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถทางการรบ ความกล้าหาญ และพระวิริยะอุตสาหะ
ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงเสี่ยงพระชนม์เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นแบบอย่าง
ของความกล้าหาญและความรักชาติที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง
สืบมาจนถึงปัจจุบัน

บทเรียนสำหรับคนรุ่นหลัง
๑. ความกล้าหาญและความเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง
๒. การมีภาวะผู้นำและความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ
๓. ความสามัคคีและการร่วมแรงร่วมใจในการปกป้องประเทศ
๔. การรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ

วันยุทธหัตถีจึงไม่เพียงแต่เป็นวันแห่งการรำลึกถึงชัยชนะทางประวัติศาสตร์เท่านั้น 
แต่ยังเป็นวันที่เตือนใจให้คนไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นชาติ 
และความจำเป็นในการรักษาเอกราชของประเทศชาติสืบไป