บทความน่ารู้
วันเข้าพรรษา
#สาระน่ารู้ #วันเข้าพรรษา
---
สาระน่ารู้ที่คุณอาจไม่เคยรู้...เกี่ยวกับวันเข้าพรรษา
๑. เข้าพรรษา ไม่ใช่การ “จำวัด” เฉย ๆ
หลายคนเข้าใจว่าพระภิกษุ “เข้าพรรษา” คือการอยู่วัดเฉย ๆ
แต่ความจริงแล้ว การเข้าพรรษา คือ ช่วงเวลาสำคัญที่พระภิกษุต้อง งดการเดินทางค้างคืนในที่อื่นเป็นเวลา ๓ เดือน
เพื่อปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และอยู่ประจำ ณ ที่ใดที่หนึ่งตามพระวินัย
*ทั้งนี้เพื่อ ไม่เหยียบย่ำต้นกล้า ในฤดูฝน
ซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูกของชาวบ้านถือเป็นการแสดงความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตและชุมชน
---
๒. ธรรมเนียม "บวชเข้าพรรษา" ของไทย ไม่เหมือนที่อื่น
ในหลายประเทศที่นับถือพุทธ เช่น ศรีลังกา พม่า กัมพูชา เวียดนาม ก็มีประเพณีเกี่ยวกับพรรษา
แต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีธรรมเนียม “บวชพรรษา” คือ การที่ชายไทยนิยมบวชในช่วงเข้าพรรษา
เพื่อศึกษาธรรมะและตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เพราะเชื่อว่า บวชในพรรษาได้บุญมากกว่าบวชในช่วงอื่น
---
๓. ต้นเทียนพรรษา...เคยเป็นแค่เทียนจริง ๆ
ในอดีต การถวายเทียนพรรษา มีจุดประสงค์เพื่อให้พระภิกษุใช้จุดในช่วงเข้าพรรษา
เนื่องจากช่วงนั้นไม่มีไฟฟ้า และฝนตกต่อเนื่องทำให้หุงหาอาหารหรืออ่านหนังสือได้ยาก
ต่อมาจึงพัฒนาเป็นการหล่อเทียนใหญ่ที่ใหญ่ขึ้นและแกะสลักอย่างวิจิตรจนกลายเป็นประเพณีงดงาม
เช่น แห่เทียนพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี
---
๔. ช่วงเข้าพรรษา คนยุคใหม่เริ่ม “บวชใจ” มากขึ้น
แม้ไม่ได้บวชจริง แต่คนรุ่นใหม่เริ่มหันมา “งดเหล้า งดของมึนเมา งดพูดคำหยาบ” ในช่วงเข้าพรรษาบางคนก็ทานมังสวิรัติ
หรือฝึกเจริญสติ ทำสมาธิ สิ่งนี้เรียกว่า “บวชใจ” ซึ่งแม้จะไม่ห่มผ้าเหลือง แต่ก็เป็นการฝึกวินัยภายในที่ได้ผลจริง
---
๕. เข้าพรรษา = โอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
นอกจากเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาแล้ว ในทางจิตวิทยา “การตั้งเป้าละสิ่งไม่ดี” ในช่วงเข้าพรรษา
คล้ายกับการตั้ง New Year’s Resolution มีข้อดีคือ คนไทยมีสภาพแวดล้อมทางสังคมช่วยสนับสนุน
เช่น มีคนร่วมงดเหล้า งดเที่ยว งดปาร์ตี้ ทำให้หลายคน เลิกเหล้าได้สำเร็จในช่วงเข้าพรรษา
และกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่ดีที่สุด
---
วันเข้าพรรษาไม่ใช่แค่เรื่องของพระสงฆ์ แต่คือโอกาสให้เราทุกคน “เข้าวัด เข้าธรรม และเข้าใจตนเอง”
ในแบบที่เหมาะกับชีวิตของเรานัั่นเอง
#ความรู้ใหม่ใกล้ฉัน
#สาระน่ารู้กับห้องสมุดฯวัดรัชฎาธิษฐานฯ
.
---
สาระน่ารู้ที่คุณอาจไม่เคยรู้...เกี่ยวกับวันเข้าพรรษา
๑. เข้าพรรษา ไม่ใช่การ “จำวัด” เฉย ๆ
หลายคนเข้าใจว่าพระภิกษุ “เข้าพรรษา” คือการอยู่วัดเฉย ๆ
แต่ความจริงแล้ว การเข้าพรรษา คือ ช่วงเวลาสำคัญที่พระภิกษุต้อง งดการเดินทางค้างคืนในที่อื่นเป็นเวลา ๓ เดือน
เพื่อปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และอยู่ประจำ ณ ที่ใดที่หนึ่งตามพระวินัย
*ทั้งนี้เพื่อ ไม่เหยียบย่ำต้นกล้า ในฤดูฝน
ซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูกของชาวบ้านถือเป็นการแสดงความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตและชุมชน
---
๒. ธรรมเนียม "บวชเข้าพรรษา" ของไทย ไม่เหมือนที่อื่น
ในหลายประเทศที่นับถือพุทธ เช่น ศรีลังกา พม่า กัมพูชา เวียดนาม ก็มีประเพณีเกี่ยวกับพรรษา
แต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีธรรมเนียม “บวชพรรษา” คือ การที่ชายไทยนิยมบวชในช่วงเข้าพรรษา
เพื่อศึกษาธรรมะและตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เพราะเชื่อว่า บวชในพรรษาได้บุญมากกว่าบวชในช่วงอื่น
---
๓. ต้นเทียนพรรษา...เคยเป็นแค่เทียนจริง ๆ
ในอดีต การถวายเทียนพรรษา มีจุดประสงค์เพื่อให้พระภิกษุใช้จุดในช่วงเข้าพรรษา
เนื่องจากช่วงนั้นไม่มีไฟฟ้า และฝนตกต่อเนื่องทำให้หุงหาอาหารหรืออ่านหนังสือได้ยาก
ต่อมาจึงพัฒนาเป็นการหล่อเทียนใหญ่ที่ใหญ่ขึ้นและแกะสลักอย่างวิจิตรจนกลายเป็นประเพณีงดงาม
เช่น แห่เทียนพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี
---
๔. ช่วงเข้าพรรษา คนยุคใหม่เริ่ม “บวชใจ” มากขึ้น
แม้ไม่ได้บวชจริง แต่คนรุ่นใหม่เริ่มหันมา “งดเหล้า งดของมึนเมา งดพูดคำหยาบ” ในช่วงเข้าพรรษาบางคนก็ทานมังสวิรัติ
หรือฝึกเจริญสติ ทำสมาธิ สิ่งนี้เรียกว่า “บวชใจ” ซึ่งแม้จะไม่ห่มผ้าเหลือง แต่ก็เป็นการฝึกวินัยภายในที่ได้ผลจริง
---
๕. เข้าพรรษา = โอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
นอกจากเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาแล้ว ในทางจิตวิทยา “การตั้งเป้าละสิ่งไม่ดี” ในช่วงเข้าพรรษา
คล้ายกับการตั้ง New Year’s Resolution มีข้อดีคือ คนไทยมีสภาพแวดล้อมทางสังคมช่วยสนับสนุน
เช่น มีคนร่วมงดเหล้า งดเที่ยว งดปาร์ตี้ ทำให้หลายคน เลิกเหล้าได้สำเร็จในช่วงเข้าพรรษา
และกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่ดีที่สุด
---
วันเข้าพรรษาไม่ใช่แค่เรื่องของพระสงฆ์ แต่คือโอกาสให้เราทุกคน “เข้าวัด เข้าธรรม และเข้าใจตนเอง”
ในแบบที่เหมาะกับชีวิตของเรานัั่นเอง
#ความรู้ใหม่ใกล้ฉัน
#สาระน่ารู้กับห้องสมุดฯวัดรัชฎาธิษฐานฯ
.