Main Menu
ไทย
Eng
ติดต่อเรา
โพลล์สำรวจ
สมัครสมาชิกห้องสมุด
Facebook
Youtube
หน้าหลัก
ข้อมูลห้องสมุด
ประวัติห้องสมุด
วิสัยทัศน์ พันธกิจ
การสมัครสมาชิกห้องสมุด
ระเบียบการใช้ห้องสมุด
บริการ
หนังสือและสิ่งพิมพ์
ตู้ล็อกเกอร์
ฟรีอินเตอร์เน็ต
หนังสือและสิ่งพิมพ์
นิตยสาร วารสารใหม่
หนังสือแนะนำสำหรับเด็กและเยาวชน
หนังสือ 1เขต 1 วรรณกรรม
บทความ
บทความน่ารู้
ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ข่าวสาร/กิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์ห้องสมุด
ปฏิทินกิจกรรม
ระบบสืบค้นหนังสือ
ถาม ตอบ
ร่วมตอบแบบสอบถาม
บรรณนิทัศน์ออนไลน์
E-Books
หน้าแรก
บทความ
บทความน่ารู้
บทความน่ารู้
กลับไปหน้าหลัก
ระวังไฟจะหมด เช็กให้ชัวร์ก่อนไฟในใจจะมอด
ระวังจะหมดไฟ เช็กให้ชัวร์ก่อนไฟในใจจะมอด เปิดโปงสาเหตุที่ทำให้หมดไฟแบบไม่ทันรู้ตัว
การเบิร์นเอ้าท์ (Burnout) หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจ
และร่างกายจากการทำงานเป็นระยะเวลานาน ซึ่งมักเกิดจากความเครียดสะสมและการเผชิญกับภาวะกดดันต่าง ๆ โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจนำไปสู่การเกิดเบิร์นเอ้าท์ได้ ดังนี้
1. ปริมาณงานและความกดดันในการทำงานที่มากเกินไป
เมื่อเรากลายเป็นบุคคลต้องรับผิดชอบงานจำนวนมาก หรือเจอกับงานที่ซับซ้อนเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือ
การสนับสนุนที่เพียงพอ ย่อมทำให้เกิดความเครียดสะสม จนเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ความกดดันในการทำงาน เช่น การทำงานตามเดดไลน์ที่กระชั้นชิด การได้รับมอบหมายงานในปริมาณที่สูงกว่าศักยภาพของตนเองหรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและการเปรียบเทียบ
2. ขาดการสนับสนุนจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
การไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา หรือไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจนในการทำงาน อาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีแรงจูงใจในการทำงานยิ่งขาดเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลือกัน หรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร ก็จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกและยากต่อการปรับตัว
3. เกิดความไม่สมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
การไม่มีเวลาเพียงพอในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบนอกเวลางาน ทำให้ไม่สามารถผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสมจากการทำงานได้และการทำงานนอกเวลาหรือการทำงานในช่วงวันหยุดบ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกว่าไม่มีการแบ่งแยกระหว่างเวลางานกับชีวิตส่วนตัว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเบิร์นเอ้าท์
4. ความคาดหวังสูงจากตนเองและคนรอบข้าง
บุคคลที่มีความคาดหวังสูงจากตัวเองหรือจากคนรอบข้างมักจะตั้งเป้าหมายสูงในการทำงาน เมื่อทำไม่ได้ตามที่คาดหวังก็จะรู้สึกผิดหวังและสูญเสียความเชื่อมั่นความกดดันในการรักษาภาพลักษณ์หรือ ชื่อเสียงในที่ทำงานอาจทำให้บุคคลทำงานหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ จนขาดความสมดุลในการดูแลสุขภาพจิตของตนเอง
5. ขาดการพัฒนาหรือโอกาสในการก้าวหน้า
การรู้สึกว่าตนเองไม่เติบโตในงานที่ทำ หรือขาดโอกาสในการพัฒนาตนเองในสายอาชีพ ส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายและขาดแรงจูงใจในการทำงานเมื่อรู้สึกว่าการทำงานไม่ได้นำไปสู่ความก้าวหน้า หรือได้รับการส่งเสริมอย่างไม่เหมาะสม จะทำให้รู้สึกหมดไฟและไม่มีพลังในการทำงาน
6. ความรู้สึกไร้ความหมายในงานที่ทำ
การทำงานที่ไม่มีเป้าหมายหรือไม่ได้สร้างคุณค่าต่อตนเองและผู้อื่น ทำให้รู้สึกว่าเวลาที่ใช้ไปนั้นสูญเปล่า และเริ่มสูญเสียความพึงพอใจในการทำงานโดยเฉพาะงานที่ขาดความท้าทายหรือไม่ได้ส่งผลดีต่อผู้คนรอบข้างก็ยิ่งทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายและหมดกำลังใจ
การป้องกันและการรับมือกับภาวะเบิร์นเอ้าท์
การจัดการและป้องกันภาวะเบิร์นเอ้าท์นั้นสามารถทำได้โดยการหาวิธีที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและจัดการกับความเครียดในชีวิต
เช่น การแบ่งเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย การพูดคุยกับคนใกล้ชิด และการพัฒนาทักษะในการจัดการ
กับปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน
#เป็นกำลังใจให้นะคะ
#เบิร์นเอ้าท์ #Burnout #ภาวะหมดไฟในการทำงาน
#สาระน่ารู้ #ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ วัดรัชฎาธิษฐานฯ
แชร์