Main Menu
ไทย
Eng
ติดต่อเรา
โพลล์สำรวจ
สมัครสมาชิกห้องสมุด
Facebook
Youtube
หน้าหลัก
ข้อมูลห้องสมุด
ประวัติห้องสมุด
วิสัยทัศน์ พันธกิจ
การสมัครสมาชิกห้องสมุด
ระเบียบการใช้ห้องสมุด
บริการ
หนังสือและสิ่งพิมพ์
ตู้ล็อกเกอร์
ฟรีอินเตอร์เน็ต
หนังสือและสิ่งพิมพ์
นิตยสาร วารสารใหม่
หนังสือแนะนำสำหรับเด็กและเยาวชน
หนังสือ 1เขต 1 วรรณกรรม
บทความ
บทความน่ารู้
ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ข่าวสาร/กิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์ห้องสมุด
ปฏิทินกิจกรรม
ระบบสืบค้นหนังสือ
ถาม ตอบ
ร่วมตอบแบบสอบถาม
บรรณนิทัศน์ออนไลน์
E-Books
หน้าแรก
บทความ
บทความน่ารู้
บทความน่ารู้
กลับไปหน้าหลัก
19 พฤศจิกา วันสุขาโลก
19 พฤศจิกายน วันสุขาโลก
การพัฒนาห้องสุขาหรือส้วมมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เริ่มตั้งแต่สมัยอารยธรรมโบราณ โดยอารยธรรมอินเดียนับเป็นชาติแรกที่มีระบบท่อระบายน้ำตั้งแต่ 2800 ปีก่อนคริสตกาล ตามมาด้วยอียิปต์โบราณที่มีห้องน้ำในพีระมิดสำหรับกษัตริย์ และอาณาจักรโรมันที่พัฒนาห้องน้ำสาธารณะพร้อมระบบท่อระบายน้ำที่ทันสมัย
ในยุคกลาง ปราสาทในยุโรปมีห้องส้วมที่ยื่นออกนอกกำแพง ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปยังใช้กระโถนและเทของเสียลงถนน ส่งผลให้เกิดโรคระบาดบ่อยครั้งจากสุขอนามัยที่ไม่ดี จนกระทั่งยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม Alexander Cumming ได้จดสิทธิบัตรส้วมชักโครกแบบแรกในปี 1775 และ Thomas Crapperได้พัฒนาต่อยอดเป็นส้วมชักโครกสมัยใหม่ในปี 1880 พร้อมกับการพัฒนาระบบท่อประปาและท่อระบายน้ำในเมืองใหญ่
สำหรับประเทศไทย เริ่มมีส้วมซึมในพระราชวังสมัยรัชกาลที่ 4 และนำเข้าส้วมชักโครกจากต่างประเทศในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการสร้างระบบท่อระบายน้ำในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2440 จากนั้นในปี 2500 เริ่มมีการรณรงค์ให้ทุกบ้านมีส้วม จนกระทั่งปี 2542 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมส้วมโลก
ปัจจุบัน การพัฒนาห้องสุขาทั่วโลกมุ่งเน้นเรื่องสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม
โดย UN ได้ประกาศให้วันที่ 19 พฤศจิกายนเป็นวันส้วมโลก เพื่อกระตุ้นความตระหนักรู้ ด้านสุขอนามัย สำหรับประเทศไทยได้พัฒนามาตรฐาน HAS (Healthy Accessibility Safety) และมีนโยบายพัฒนาส้วมสาธารณะโดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว พร้อมรณรงค์ส้วมสะอาดทั่วไทยอย่างต่อเนื่อง
แชร์