Main Menu
BANGKOK PORTAL

บทความน่ารู้

แก้วมหัศจรรย์จากยุคโรมัน
แก้วมหัศจรรย์จากยุคโรมัน

ขึ้นชื่อว่าภาชนะที่ทำจากแก้วถ้าเผลอทำหลุดร่วงจากมือ ลงไปกระแทกพื้นก็คงจะต้องแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ชาวโรมันในอดีตเคยสร้างแก้วที่ไม่มีวันแตกขึ้นมาด้วย นอกจากนั้นพวกเขายังเคยสร้างแก้วที่สามารถเปลี่ยนสีได้ขึ้นมาอีกด้วย!!
มาดูแก้วที่ไม่มีวันแตกกันก่อนค่ะ แท้ที่จริงแล้วแก้วชนิดนี้ไม่หลงเหลือหลักฐานมาถึงปัจจุบันให้เราได้เห็นกันหรอกค่ะ ว่าชาวโรมันสร้างแก้วที่ไม่มีวันแตกขึ้นมาด้วยวัสดุอะไรกันแน่ เพราะสิ่งที่นักวิชาการทราบเกี่ยวกับแก้วชนิดนี้ก็คือ องค์ความรู้เกี่ยวกับมันได้ “ตาย” ไปพร้อมกับผู้ที่คิดค้นแก้ว เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ นั่นจึงทําให้แก้วที่ไม่มีวันแตกปรากฏเพียงแค่ในบันทึกเท่านั้นเอง
ถ้าอ้างอิงจากเอกสารของนักประวัติศาสตร์ยุคโรมัน พวกเขาบันทึกเกี่ยวกับแก้วชนิดนี้เอาไว้ว่าช่างทําแก้วในสมัยของจักรพรรดิไทบีเรียส (Tiberius) ได้นําเอาแก้วชนิดพิเศษที่เขาเพิ่งคิดค้นมาโชว์เบื้องหน้าองค์จักรพรรดิ เพื่อหวังว่าจะได้รับการตบรางวัลอย่างงามเพราะแก้วที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมานี้ เหนือชั้นกว่าแก้วทั่วๆไปตรงที่มัน “ไม่มีวันแตก” นั่นเอง
เมื่อองค์จักรพรรดินําแก้วไปชมจนพอใจและส่งแก้วคืนให้แล้ว ช่างทําแก้วก็ขว้างแก้วชิ้นนั้นสุดแรงเกิดลงไปบนพื้น! ผลปรากฏว่าแก้วไม่แตกค่ะ!! มีเพียงแค่รอยบุบจากการกระแทกเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเพียงแค่นําเอาค้อนมา ทุบ ๆ นิดหน่อยก็กลับคืนสู่สภาพเดิม จักรพรรดิตกตะลึงมาก พระองค์ถามกับช่างทําแก้วว่ามีใครรู้อีกไหมว่าแก้วพิลึกเช่นนี้สร้างขึ้นมาอย่างไร ช่างทําแก้วตอบด้วยความภาคภูมิใจว่ามีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ แทนที่จักรพรรดิไทบีเรียสจะ ประทานรางวัลให้กับช่างทําแก้ว พระองค์กลับสั่ง “ประหาร” ช่างทําแก้วคนนั้นซะ!! เพราะเกรงว่าแก้วมหัศจรรย์ชิ้นนี้จะเข้า มาทําให้คุณค่าของโลหะอย่างทองคําต้องด้อยค่าลงไปกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะไม่มีใครเคยเห็นแก้วมหัศจรรย์ที่ไม่มีวันแตกใบนั้น แต่แก้วมหัศจรรย์จากยุคโรมันที่หลงเหลือ มาถึงปัจจุบันก็มีเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะแก้วในรูปทรงคล้ายหุ้มด้วยตาข่าย (Cage Cup) ที่ประดับลวดลายตัว อักษรเอาไว้ด้านนอก ซึ่งแก้วที่น่าทึ่งที่สุดคงหนีไม่พ้น “แก้ว ของไลเคอร์กัส” (Lycurgus Cup) ที่เมื่อแสงจากด้านนอกเข้าตกกระทบจะทําให้มองเห็นเป็น “สีเขียว” แต่ถ้าแหล่งกําเนิดแสงอยู่ภายในแก้วจะทําให้เรามองเห็นแก้วเป็น “สีแดง” ได้อย่าง น่าทึ่ง
ในปัจจุบันนักวิชาการนําเอาแก้วไลเคอร์กัสมาตรวจสอบแล้วพบว่าแก้วชนิดนี้มีส่วนผสมของอนุภาคทองคําและโลหะเงินในระดับ “นาโน” (Nano) ผสมอยู่ ซึ่งชาวโรมันเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องอนุภาคระดับนาโน นักวิชาการเสนอว่าชาวโรมันอาจจะได้สิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์นี้มาจากความบังเอิญ แต่ก็คงจะจินตนาการได้ไม่ยากล่ะค่ะ ว่าในยุคสมัยของชนโบราณเมื่อ 9,500 ปีก่อน แก้วที่สามารถเปลี่ยนสีได้เช่นนี้ ต้องถูกมองว่าเป็นแก้วมหัศจรรย์อย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : ต่วยตูน ปีที่ 46 ฉบับที่ 546
รูปภาพ : ต่วยตูน ปีที่ 46 ฉบับที่ 546