สาระน่ารู้
PM2.5 คืออะไร?
อยู่ร่วมกับ PM2.5 ยังไง?
สัญญาณเตือนว่าร่างกายรับฝุ่นเกินไป
การล้างจมูกช่วยได้ไหม?
สิ่งที่หลายคนคิดผิด
PM2.5 คืออะไร?
ฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
เข้าถึงถุงลมปอด เลือด และอวัยวะอื่นได้
เสี่ยง: หอบหืดกำเริบ ระคายคอ ปวดหัว อ่อนเพลีย นอนหลับไม่ดี ภูมิแพ้กำเริบ
ช่วงไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?
ช่วง ธ.ค. – ก.พ. (อากาศนิ่ง ลมอ่อน)
เช้า 05.00–09.00 น. (หมอก + ควัน + ความชื้น)
ถนนใหญ่/แยกใหญ่ / โรงงาน / พื้นที่ที่มีการเผา
วิธีเช็คคุณภาพอากาศง่าย ๆ
ใช้แอป: Air4Thai / AirVisual / LINE TODAY “คุณภาพอากาศวันนี้”
เกณฑ์ที่ควรรู้
ดี : 0–25
พอใช้ : 26–50
เริ่มเสี่ยง : 51–75
ไม่ดี : 76–100
อันตราย : มากกว่า 101
อยู่ร่วมกับ PM2.5 ยังไง?
(เอาไปทำเป็นไอคอนได้ดีมาก 5–7 ข้อ)
1) ใส่หน้ากากให้ถูกประเภท
ควรใช้ N95 / KN95 แบบแนบหน้า
ถ้าไม่มี ใช้หน้ากากผ้าหนา 3 ชั้น + กระดาษทิชชูซับเพิ่ม (กันได้บางส่วน)
2) ปิดประตู-หน้าต่างช่วงค่าฝุ่นสูง
เปิดตอนค่าฝุ่นต่ำ (ส่วนใหญ่ช่วงสาย–บ่าย)
เปิดพัดลมดูดอากาศออกด้านเดียว ลดฝุ่นค้างในบ้าน
3) ใช้เครื่องฟอกอากาศให้ถูกวิธี
เลือก HEPA 13–14
ให้ CADR เหมาะกับขนาดห้อง
เปิด 24 ชม.ได้ ยิ่งช่วงวิกฤตยิ่งควรเปิด
4) ทำความสะอาดบ้านแบบ "เช็ดเปียก"
หลีกเลี่ยงการกวาด เพราะฝุ่นจะลอยซ้ำ
ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ดูดฝุ่นได้ดีกว่า
5) ดื่มน้ำเยอะ พักผ่อนให้พอ
ลดความระคายคอ
ช่วยให้ระบบหายใจดีขึ้น
6) งดกิจกรรมกลางแจ้งหากค่าฝุ่นเกิน 75
เด็กเล็ก / ผู้สูงอายุ / ผู้ตั้งครรภ์ / ผู้เป็นโรคหอบหรือหัวใจ ควรระวังเป็นพิเศษ
7) ดูแลเด็กเล็กเป็นพิเศษ
ไม่ควรให้วิ่งในสนามเมื่อค่าฝุ่นเกิน 50
ระวังอาการ : ไอแห้ง น้ำมูกใส คันตา หายใจเร็ว
สัญญาณเตือนว่าร่างกายรับฝุ่นเกินไป
ไอแห้งเรื้อรัง
เจ็บคอ แสบจมูก
ปวดหัว อ่อนเพลีย
หายใจไม่เต็มปอด หายใจถี่
ผิวแพ้ง่ายขึ้น
(เหมาะกับทำเป็นกราฟิก “5 อาการที่ต้องสังเกต”)
การล้างจมูกช่วยได้ไหม?
-ช่วยลดฝุ่นที่ค้างในโพรงจมูก
-เหมาะกับเด็ก-ผู้ใหญ่
-วันละ 1–2 ครั้ง (ช่วงฝุ่นหนัก)
สิ่งที่หลายคนคิดผิด
-เปิดแอร์เฉย ๆ ไม่ช่วยกรองฝุ่น
-หน้ากากอนามัยธรรมดา (Surgical) ป้องกัน PM2.5 ไม่พอ
-ฝนตก = ฝุ่นหมด — จริงแค่บางช่วง ฝนหยุดใหม่ ๆ ฝุ่นอาจฟุ้งกลับได้