Main Menu
ไทย
Eng
ติดต่อเรา
แบบสอบถาม
โพลล์สำรวจ
สมัครสมาชิกห้องสมุด
Facebook
หน้าหลัก
ข้อมูลห้องสมุด
รู้จักหอสมุด
บริการ
หนังสือและสิ่งพิมพ์
ยืม-คืน อุปกรณ์
ห้องค้นคว้า
ห้องวีดีทัศน์
จอง/ขอใช้บริการ
ตู้ล็อกเกอร์
ฟรีอินเตอร์เน็ต
บริการอื่นๆ
อีบุ้คและมัลติมีเดีย
หนังสือและสิ่งพิมพ์
บรรณนิทัศน์ออนไลน์
หนังสือดีที่น่าอ่าน
นิตยสารดีที่น่าอ่าน
หนังสือใหม่
E-Books
บทความ
สาระน่ารู้
แหล่งความรู้อื่นๆ
สารสนเทศขบวนการเสรีไทย
ข่าวสาร/กิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์ห้องสมุด
ปฏิทินกิจกรรม
กิจกรรมประจำสัปดาห์
กิจกรรมประจำสัปดาห์
มุมดีๆ ที่เสรีไทย
สารสนเทศขบวนการเสรีไทย
E-Books
ระบบสืบค้นหนังสือ
ถาม ตอบ
หนังสือแนะนำ
หนังสือดีที่น่าอ่าน
นิตยสารดีที่น่าอ่าน
หน้าแรก
บทความ
สาระน่ารู้
สาระน่ารู้
กลับไปหน้าหลัก
กำเนิดเทศกาลฮาโลวีน
#สาระน่ารู้
ต้นกำเนิด: เทศกาล Samhain ของชาวเคลต์
ฮาโลวีนสืบเนื่องมาจากเทศกาล Samhain (อ่านว่า “ซาห์-วิน / sow-in”) ของชาวเคลต์ในแถบไอร์แลนด์ สกอตแลนด์ และบริวารใกล้เคียง ซึ่งมีประวัติย้อนหลังไปประมาณ 2,000 ปี
เทศกาล Samhain จัดขึ้นในคืนวันที่ 31 ตุลาคมถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นช่วงเชื่อมต่อระหว่างฤดูเก็บเกี่ยวและฤดูหนาว (คือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านระหว่าง “ฤดูสว่าง” กับ “ฤดูมืด”)
ชาวเคลต์เชื่อว่าในคืนนี้ “พรมแดน” ระหว่างโลกของผู้มีชีวิตกับโลกของวิญญาณจะบางลง วิญญาณผู้ล่วงลับอาจเข้ามาในโลกมนุษย์ได้ สิ่งนี้จึงก่อให้เกิดความเชื่อเรื่องวิญญาณ การไหว้บูชา และการเตรียมป้องกันตนเองจากจิตวิญญาณที่อาจมารบกวน
ในเทศกาลนั้น ชาวเคลต์มักจะ:
จุดกองไฟใหญ่ (bonfires) เพื่อให้แสงสว่าง ขับไล่วิญญาณร้าย และเป็นสัญลักษณ์ของการชำระล้าง
สวมหน้ากากหรือแต่งเครื่องแต่งกายเป็นผี ปีศาจ หรือสิ่งลึกลับ เพื่อแอบแฝงตนไม่ให้วิญญาณร้ายจำแนกได้ หรือป้องกันตนเองจากภัยอันตรายจากวิญญาณ
มีการถวายสิ่งของ อาหารให้กับวิญญาณหรือบรรพบุรุษ บางครั้งถือเป็นการเชื้อเชิญให้วิญญาณมาร่วมกับพิธีกรรมบางอย่าง
การปรับเข้ากับศาสนาคริสต์และวิวัฒนาการเป็น “ฮาโลวีน”
เมื่อคริสต์ศาสนาแพร่หลายไปยังบริเวณที่ชาวเคลต์อยู่ ประเพณีหลายอย่างของ Samhain ได้รับการกลมกลืนกับพิธีกรรมคริสต์
ในศตวรรษที่ 7 พระสันตะปาปา Gregory III ได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็น วันสมโภชนักบุญ (All Saints’ Day / All Hallows’ Day) เพื่อเฉลิมฉลองนักบุญทั้งหมด
คืนก่อนวันสมโภชนักบุญ จึงถูกเรียกว่า All Hallows’ Eve (“คืนก่อนนักบุญ”) ซึ่งเพี้ยนเสียงและสะกดมาเป็น “Halloween” ในเวลาต่อมา
ประเพณีดั้งเดิมของ Samhain อย่างเช่น การแต่งกายเป็นผี การจุดไฟ การถวายอาหาร หรือการป้องกันวิญญาณ ถูกดัดแปลงให้เหมาะกับความเชื่อและวัฒนธรรมคริสต์ และพัฒนาเป็นแบบฉบับใหม่ เช่น trick-or-treat (เด็กเคาะประตูขอขนมหรือ “หลอกหรือให้”) และ jack-o′-lanterns
ตัวอย่างเช่น เกม “bobbing for apples” (จับแอปเปิ้ลโดยใช้น้ำ) มีรากฐานมาจากพิธีกรรมโรมันที่เชิดชูเทพ Pomona เทพแห่งผลไม้และความอุดมสมบูรณ์
ฮาโลวีนในโลกปัจจุบันและในไทย
ปัจจุบัน ฮาโลวีนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และหลายประเทศเอเชีย โดยมีลักษณะเฉพาะคือการแต่งกายเป็นผี ปีศาจ สิ่งลี้ลับ การจัดปาร์ตี้ การตกแต่งบ้านด้วยฟักทอง โคมไฟ หรือสิ่งน่ากลัวต่าง ๆ
ในประเทศไทย ฮาโลวีนไม่ใช่เทศกาลดั้งเดิม แต่อิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตกทำให้ได้รับความนิยมในเมืองใหญ่ โดยมีงานปาร์ตี้ การแต่งตัว แข่งเครื่องแต่งกาย และกิจกรรมสำหรับเด็ก
มีเทศกาลพื้นบ้านไทยที่คล้ายคลึง เช่น ผีตาโขน ที่อำเภอด่านซี้ จังหวัดเลย ซึ่งมักถูกขนานนามว่าเป็น “ฮาโลวีนแบบไทย” โดยมีการแต่งตัวเป็นผี วิญญาณ และจัดขบวนแห่ที่ผสมกับพิธีกรรมพุทธศาสนา
แชร์