ความจริงคนจีนเขาก็ถือเอาเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ลงเขาร้องว่า"เจี๊ยะ" แล้วละก็ เป็นต้องทิ้งการงานไว้ก่อน ต้องรีบไปนั่งโต๊ะทันที เพราะชาวจีนเขากินแบบหนังบู๊ ไม่ค่อยพูดพร่ำทำเพลงเหมือนหนังรักโรแมนติก พูดกันว่ากินเจี๊ยะแล้วเขาก็ต้องก้มหน้าก้มตากินกันเป็นงานเป็นการทีเดียว ใครขืนชักช้ามัวโอ้เอ้อยู่เป็นอด พวกผู้ดีหรือที่แก่มารยาทมัวนึกถึงวัฒนธรรมการกินอาหารแล้วไปกินกับพวกกุลีจีน รับรองว่าไม่ทันแน่ และตามเรื่องในพงศาวดารจีนเราจะเห็นว่า ถ้าลงได้มีแขกหรือนั่งคุยปรึกษาหารือกันทีไร เป็นต้องตั้งโต๊ะเลี้ยงกันทุกทีไป ถ้ายิ่งออกรบได้ชัยชนะกลับมาด้วยแล้ว เป็นต้องเลี้ยงดูกันชนิดอิ่มหนำสำราญกันทีเดียว
ทำไมมนุษย์ถึงต้องกินอาหารและถือเอาเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าถามอย่างนี้ ท่านก็คงจะว่าถามชอบกล ที่ต้องกินก็เพื่อให้มีชีวิตอยู่น่ะซี เราเป็นคนไม่ใช่เทวดา พวกเทวดาท่านไม่ต้องหากิน เทวดาท่านเป็นพวกอิ่มทิพย์ คนที่ตายไปอยากเป็นเทวดาก็ไม่ใช่อะไรอื่น เพราะจะได้ไม่ต้องหากินนี่เอง ถ้าจะถามต่อไปอีกว่า เมื่อเรากินเพื่อให้มีชีวิตอยู่นั้น ใครเป็นคนสอนให้มนุษย์รู้จักกินล่ะ เมื่อถามมาถึงขั้นนี้ บางท่านอาจจะตาเขียวหาว่าถามซอกแซกไป แต่อย่าเพิ่งโกรธกัน เพราะก่อนที่มนุษย์จะรู้จักกินนั้น มันมีเรื่องจะเล่านิทานต้นเรื่องที่จะมีมนุษย์เสียก่อน คือตอนที่จะเริ่มมีมนุษย์ นั้นก้เริ่มจากการกินนี่แหละ
บัดนี้ทางพิมพ์คำสำนักพิมพ์เห็นว่า กระยานิยาย เป็นหนังสือที่มีสาระ อ่านสนุก และได้ความรู้ น่าพิมพ์ออกเผยแพร่ให้กว้างขวางออกไป จึงได้ขอนำมาจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มใหม่ ดังที่เห็นอยู่นี้ หวังว่าผู้อ่านคงจะได้รับความสนุกและความรู้ตามสมควร และขอขอบคุณทั้งผู้จัดพิมพ์และผู้อ่านมา ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
#ติดตามข่าวสารกิจกรรมห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์เสรีไทยอนุสรณ์ ได้ที่