วันที่ 2 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันส้มตำสากล” (International Somtum Day) เป็นวันที่นานาชาติให้การยอมรับว่าส้มตำไทยอร่อย และยกย่องให้ส้มตำเป็นอาหารสากล
“ส้มตำ” เป็นอาหารปรุงมาจากการทำตำส้ม คือการทำให้เปรี้ยว ในลาวเรียกว่า “ตำหมากหุ่ง” โดยนำมะละกอดิบที่สับแล้วฝานหรือขูดเป็นเส้นมาตำในครกเป็นหลัก พร้อมด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น มะเขือเทศลูกเล็ก,มะเขือสีดา,มะเขือเปราะ,พริกสดหรือพริกแห้ง,ถั่วฝักยาวมกระเทียม และปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และมะนาว
โดยส่วนผสมและเครื่องปรุงต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ส้มตำมีรสเผ็ด เค็ม และเปรี้ยว โดยในภาคอีสานนิยมส้มตำรสเผ็ดเค็ม ส่วนไทยภาคกลางนิยมรสเปรี้ยวหวาน ซึ่งนิยมรับประทานกับข้าวเหนียวและไก่ย่าง โดยในบางครั้งรับประทานกับขนมจีน เส้นเล็กลวก เส้นหมี่ และแคบหมู
นอกจากนี้ ร้านส้มตำส่วนใหญ่มักขายอาหารอีสานอื่นด้วย เช่น ซุบหน่อไม้ อ่อม ลาบ ก้อย แจ่ว ปลาแดกบอง น้ำตก ซกเล็ก ตับหวาน ไก่ย่าง คอหมูย่าง พวงนม กุ้งเต้น (ก้อยกุ้ง) ข้าวเหนียว
ส้มตำไทย 1 จาน มีส่วนผสมอะไรบ้าง
- มะละกอดิบ
- กระเทียมกลีบ
- พริกขี้หนู
- มะเขือเทศผ่าครึ่ง
- ถั่วลิสงคั่ว
- ถั่วฝักยาวหั่น
- น้ำปลา
- กุ้งแห้ง
-น้ำมะขามเปียก
-น้ำตาลปี๊บ
วิธีทำส้มตำให้อร่อย
เฉาะมะละกอ สับให้เป็นเส้น ๆ ตำพริกขี้หนูและกระเทียมให้แตก ตามด้วยมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง กุ้งแห้ง ตำให้ทั่ว และตามด้วยเส้นมะละกอ ปรุงรสที่เหลือ ตำให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักเคียง เช่น กะหล่ำปลีสด ถั่วฝักยาว หรือผักดองตามชอบ
นอกจากนี้ ส้มตำยังประยุกต์เป็นเมนูแซ่บอีกหลายเมนู เช่น ตำปลาร้า คือส้มตำที่ใส่ปลาร้า ตำปู คือส้มตำที่ใส่ปูเค็มหรือปูดอง รสชาติออกเค็มนำ ตำปูปลาร้า คือส้มตำที่ใส่ทั้งปูและปลาร้าลงไป หรืออาจประยุกต์โดยการใส่วัตถุดิบตามชอบลงไปก็ได้เช่นกัน Cr. www.tnnthailand.com