Main Menu
BANGKOK PORTAL

วันนี้มีที่มา

วันปะการัง

     ทุกวันที่ 4 มีนาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันปะการัง โดยเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2539 ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญกับ ปะการัง ที่มีส่วนช่วยให้ระบบนิเวศทางทะเลมีความสมดุลต่อสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลเป็นอย่างมาก


     โดยการก่อตั้ง “วันปะการัง” ขึ้นมาที่เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่นนั้น เนื่องจากที่เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันในฐานะทะเลที่มีปะการังมากที่สุดติดอันดับโลก ซึ่งในช่วงระหว่างเกาะอิชิกาคิจนถึงเกาะอิริโอโมเตะ จะมีแนวปะการัง “เซคิเซโชโกะ” (石西礁湖) แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีกลุ่มปะการังสีฟ้าที่มีคุณค่าติดระดับโลกอยู่ด้วย ปะการังราว 200 ชนิด จากปะการังที่มีมากถึงกว่า 800 ชนิดในโลก ได้รับการยืนยันว่ามีอยู่ในโอกินาวา

     แต่ในปัจจุบัน เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น, ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว, การเคลื่อนตัวของดินสีน้ำตาลแดงอันเนื่องจากการก่อสร้างแนวป้องกันชายฝั่ง รวมไปถึงการที่สิ่งมีชีวิตในทะเลอย่าง “โอนิฮิโตเดะ” (オニヒトデ) หรือ “ดาวมงกุฎหนาม” และ “เรอิชิไกดามาชิ” (レイシガイダマシ) หอยทะเลชนิดหนึ่ง ได้กัดกินปะการังเป็นอาหาร ทำให้ปะการังมีจำนวนลดลง

     สำหรับความสำคัญของแนวปะการัง

    1. แนวปะการังบริเวณชายฝั่งและแนวปะการังแบบกำแพงจะทำหน้าที่ป้องกันชายฝั่งจากการกัดเซาะของคลื่น กระแสน้ำโดยตรง ถ้าไม่มีแนวปะการังนี้ ชายฝั่งทะเลจะถูกคลื่นลมทะเลทำลายอย่างรุนแรงทุกครั้ง
    2. แนวปะการังเป็นตัวสร้างทรายให้กับชายหาด โดยเกิดจากการสึกกร่อนของโครงสร้างหินปูนจากคลื่นลมและสัตว์บางชนิด
    3. แนวปะการังเป็นแหล่งอาหารมนุษย์ เพราะมีสัตว์ที่อยู่ในแนวปะการังมากมาย เช่น ปลาหมึก หอย กุ้ง แมงกะพรุน ฯลฯ
    4. สารพิษบางอย่างซึ่งสัตว์ทะเลในแนวปะการังสร้างเพื่อป้องกันตัวเองนั้น สามารถนำมาสกัดใช้ทำยาได้ เช่น ยาต้านมะเร็ง เป็นต้น
    5. แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตที่สวยงามใต้ท้องทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมาก

Cr. ​www.dailynews.co.th