Main Menu
ไทย
Eng
ติดต่อเรา
แบบสอบถาม
โพลล์สำรวจ
สมัครสมาชิกห้องสมุด
Facebook
หน้าหลัก
ข้อมูลห้องสมุด
รู้จักหอสมุด
บริการ
หนังสือและสิ่งพิมพ์
หนังสือแนะนำ
บรรณนิทัศน์ออนไลน์
New Books ThungKhru
อีบุ้คและมัลติมีเดีย
E-Books
E-Book Hibrary
E-Book Bangkoklibrary
สาระน่ารู้
วันนี้มีที่มา
ระบบสืบค้นหนังสือ
ปฏิทินห้องสมุด
กิจกรรม-วันหยุด-วันสำคัญ
หน้าแรก
ปฏิทินห้องสมุด
วันนี้มีที่มา
วันนี้มีที่มา
กลับไปหน้าหลัก
วันจูบโลก
การศึกษาเรื่องการจูบเริ่มในต้นศตวรรษที่ 20 โดยนักประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ชื่อ
เออร์เนสต์ ครอว์ลีย์
เขียนไว้ว่า “การจูบเป็น การแสดงอเนกประสงค์ในชีวิตสังคมของความศิวิไลซ์ชั้นสูงกว่าของความรู้สึก ความใคร่ ความรัก (เพศ ความเป็นพ่อเป็นแม่ และความเป็นลูก) และความเคารพ” ครอว์เลย์ยังกล่าวว่า การสัมผัส “เป็นความรู้สึกของความเป็นแม่ และการจูบเป็นการสัมผัสและรูปแบบพิเศษของการติดต่อกันที่ใกล้ชิด”
นอกจากนี้ ยังเคยมีนักมานุษยวิทยาและนักวิทยาศาสตร์ ที่พยายามเอ่ยถึงทฤษฎีการจูบด้วยกันถึง 2 ทฤษฎี โดยทฤษฎีมองว่า การจูบนั้นเป็นพฤติกรรมที่พัฒนามาจากการป้อนอาหารจากแม่สู่ลูก โดยใช้ริมฝีปาก ขณะที่อีกทฤษฎี มองว่าการจูบนั้นเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่มีมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติแล้ว แถมยังมีข้อมูลบ่งชี้อีกว่า คนมากถึง 2 ใน 3 บนโลก มักจะเอียงคอไปด้านขวาขณะที่จูบ
ทั้งนี้
องค์การสหประชาชาติ หรือ UN
ได้กำหนดให้วันที่ 6 กรกฎาคม เป็น
วัน
จูบโลก (World Kissing Day)
ซึ่งยังรู้จักกันในชื่อ
วันจูบสากล (International Kissing Day)
ตั้งแต่ปี 1991 โดยเริ่มแรกมีขึ้นเฉพาะในสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะได้รับความนิยมไปทั่วยุโรป และกลายเป็นระดับสากลทั่วโลก
Cr.www.
teen.mthai.com
แชร์