Main Menu
BANGKOK PORTAL

วันนี้มีที่มา

วันอาภากร

     ทุกวันที่ 19 พฤษภาคมเป็น “วันอาภากร” ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้ทรงได้รับสมัญญาเป็นองค์บิดาแห่งกองทัพเรือ โดยทหารเรือยกย่องและเทิดทูนพระเกียรติคุณอย่างสูงสุด เนื่องจากพระองค์ทรงริเริ่มวางรากฐานกิจการทหารเรือ และนำความเจริญมั่นคงและรุ่งเรืองมีสมรรถภาพสู่กองทัพเรือเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ทำให้ทัพเรือไทยทันสมัยมีมาตรฐาน และเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยะประเทศ 
 
     ทั้งนี้กองทัพเรือจึงกำหนดให้ 19 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันอาภากร” ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เพื่อเป็นการเทิดทูน เผยแพร่พระเกียรติคุณ และแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่านกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ คือใคร
 
     พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อ 19 ธันวาคม 2423 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ผู้บัญชาการทหารเรือวังหลวงทรงเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษ ทรงมีจุดประสงค์แรงกล้าจะฝึกให้ทหารเรือไทยเดินเรือทะเลได้อย่างชาวต่างประเทศ และสามารถรบทางเรือได้ เนื่องจากอดีตประเทศไทยต้องว่าจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้บังคับการเรือโดยตลอด

     โดยภายหลังจากที่พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สำเร็จการศึกษาและเข้ารับราชการทหารเรือแล้ว พระองค์ได้แก้ไขปรับปรุงระเบียบวิธีปฏิบัติในโรงเรียนนายเรือ ทรงเป็นครูสอนนักเรียนนายเรือ และริเริ่มการใช้ระบบการปกครองบังคับบัญชาตามระเบียบการปกครองในเรือรบ คือแบ่งให้นักเรียนชั้นสูงบังคับบัญชาชั้นรองลงมา นอกจากนี้ ยังทรงจัดเพิ่มวิชาสำคัญสำหรับชาวเรือขึ้นเพื่อให้สำเร็จการศึกษา สามารถเดินเรือ ทางไกลในทะเลน้ำลึก ได้แก่ การเดินเรือ ดาราศาสตร์ ตรีโกณมิติ อุทกศาสตร์ เรขาคณิต พีชคณิต ฯลฯ

     ต่อมา เมื่อ พ.ศ.2462 พระองค์ทรงเป็นผู้บังคับการเรือ โดยนำ เรือหลวงพระร่วง จากประเทศอังกฤษ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร นับเป็นครั้งแรกที่นายทหารเรือไทยเดินเรือได้ไกลข้ามทวีป ที่สำคัญพระองค์ทรงเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงที่สำคัญที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงเห็นความสำคัญและโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชวังเดิม ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ เมื่อ 20 พ.ย. 2449 ทำให้กิจการทหารเรือมั่นคง (กองทัพเรือยึดวันดังกล่าวเป็น วันกองทัพเรือ)

     ขณะที่จากที่พระองค์ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์ที่เล็งเห็นการไกล พระองค์ได้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานที่ดินบริเวณอำเภอสัตหีบ เพื่อสร้างเป็นฐานทัพเรือ เนื่องจากทรงพิจารณาว่า อ่าวสัตหีบเป็นอ่าวขนาดใหญ่น้ำลึก เหมาะแก่การฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดได้ และเกาะน้อยใหญ่ที่รายล้อมรอบสามารถบังคับคลื่นลมได้ดี อีกทั้งเรือภายนอกเมื่อแล่นผ่านพื้นที่จะไม่สามารถมองเห็นฐานทัพได้

     ในส่วนด้านการแพทย์ ทรงศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจังและใช้เวลาหลังทรงเกษียณเสด็จไปรักษาโรคแก่ประชาชนด้วยพระองค์เอง ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือคนจีน จนกระทั่งชาวจีนย่านสำเพ็งซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ เรียกพระองค์ท่านว่า "เตี่ย" (พ่อ) ซึ่งต่อมาทหารเรือได้เรียกพระองค์ว่า "เสด็จเตี่ย" ขณะที่คนไข้ชาวไทยมักเรียกพระองค์ว่า "หมอพร"

     ทั้งนี้ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงประชวรและสิ้นพระชนม์ ในขณะที่ประทับอยู่ที่หาดทรายรี ปากน้ำเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่19 พฤษภาคม พ.ศ.2466 เวลา 11.40 น.


Cr. www.tnnthailand.com