บทความน่ารู้
ประโยชน์ของ “ การ์ตูน ” ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ประโยชน์ของ “ การ์ตูน ” ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
การ์ตูนมักจะถูกมองว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ในสายตาของผู้ปกครอง เพราะทำให้ลูกๆ ไม่สนใจในการอ่านหนังสือเรียนที่เน้นเนื้อหาความรู้และทฤษฏีมากกว่า แต่ในปัจจุบันเนื้อหาของการ์ตูนได้รับการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งยังมีประโยชน์ที่คุณอาจคาดไม่ถึงอีกด้วย ตัวอย่างเช่น...
1. การสร้างแรงบันดาลใจ
การ์ตูนนั้นสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจในด้านของการอดออม ด้านอาชีพ และด้านศิลปะ
2. ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี
การ์ตูนส่วนใหญ่สอดแทรกแนวคิด “ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ” อยู่เสมอ การสร้างตัวละครที่มีนิสัยกล้าหาญ ใจดี ก็มักพบได้บ่อยในการ์ตูนหลายเรื่องเพื่อสร้างทัศนคติแก่ผู้ดู รวมไปถึงการสอนเกี่ยวกับ “ มิตรภาพ ” ระหว่างเพื่อนและครอบครัวอีกด้วย
3. สร้างความสนุกและเสียงหัวเราะ
เป็นข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อเด็กๆ ได้ดูการ์ตูนที่พวกเขาชอบเราก็มักจะได้ยินเสียงหัวเราะจากพวกเขาอยู่เสมอ นั่นทำให้ความเครียดและความอ่อนล้าจากการเรียนรวมถึงสังคมของพวกเขาได้รับการคลายลง
4. ช่วยพัฒนาด้านภาษา
การ์ตูนหลายเรื่องที่ได้รับความสนใจมักมาจากต่างประเทศอยู่เสมอ ในส่วนนี้สามารถช่วยในการพัฒนาและฝึกฝนการอ่านของเด็กๆ ได้ อีกทั้งช่วยสอนในบางคำศัพท์ที่ไม่มีอยู่ในเนื้อหาหรือบทเรียน เป็นแรงผลักดันให้เด็กๆ อยากเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
5. ช่วยสร้างกำลังใจ
การ์ตูนหลายเรื่องมักนำเสนอเกี่ยวกับตัวเอกที่ต้องพบเจอกับอุปสรรค์ในหลายๆ รูปแบบ แต่ตัวละครเอกเหล่านั้นก็ไม่เคยย่อท้อและมีความพยายามอยู่เสมอ และในทุกการเดินทางของเนื้อเรื่องมักจะพบเจอคำพูดที่ช่วยเป็นคติสอนใจ และเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ชมเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงสร้างกำลังใจให้เผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่ยากลำบากได้อีกด้วย
6. กระตุ้นการอยากออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมอื่นๆ
การ์ตูนมีอยู่หลายแนวให้เลือกดู หนึ่งในนั้นคือการ์ตูนแนวกีฬาที่มักพบเห็นได้บ่อยๆ และกลายเป็นเหมือนแรงผลักดันที่ดีให้แก่ผู้ชม รวมไปถึงช่วยส่งเสริมในเรื่องของกิจกรรม และการเล่นนอกชั้นเรียนช่วยเสริมสมรรถภาพทางร่างกายและปัญญาได้
นี่แหละ ! คือข้อดีของการ์ตูนที่ไม่ควรมองข้าม แต่อย่าลืมว่าการดูหรืออ่านการ์ตูนนั้นก็ส่งผลในด้านลบได้อีกด้วย ฉะนั้นเราจึงต้องบริหารเวลาให้ดีๆ ล่ะ !
ขอบคุณข้อมูลจาก : Sanook
ประโยชน์ของ “ การ์ตูน ” ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
การ์ตูนมักจะถูกมองว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ในสายตาของผู้ปกครอง เพราะทำให้ลูกๆ ไม่สนใจในการอ่านหนังสือเรียนที่เน้นเนื้อหาความรู้และทฤษฏีมากกว่า แต่ในปัจจุบันเนื้อหาของการ์ตูนได้รับการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งยังมีประโยชน์ที่คุณอาจคาดไม่ถึงอีกด้วย ตัวอย่างเช่น...
1. การสร้างแรงบันดาลใจ
การ์ตูนนั้นสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจในด้านของการอดออม ด้านอาชีพ และด้านศิลปะ
2. ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี
การ์ตูนส่วนใหญ่สอดแทรกแนวคิด “ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ” อยู่เสมอ การสร้างตัวละครที่มีนิสัยกล้าหาญ ใจดี ก็มักพบได้บ่อยในการ์ตูนหลายเรื่องเพื่อสร้างทัศนคติแก่ผู้ดู รวมไปถึงการสอนเกี่ยวกับ “ มิตรภาพ ” ระหว่างเพื่อนและครอบครัวอีกด้วย
3. สร้างความสนุกและเสียงหัวเราะ
เป็นข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อเด็กๆ ได้ดูการ์ตูนที่พวกเขาชอบเราก็มักจะได้ยินเสียงหัวเราะจากพวกเขาอยู่เสมอ นั่นทำให้ความเครียดและความอ่อนล้าจากการเรียนรวมถึงสังคมของพวกเขาได้รับการคลายลง
4. ช่วยพัฒนาด้านภาษา
การ์ตูนหลายเรื่องที่ได้รับความสนใจมักมาจากต่างประเทศอยู่เสมอ ในส่วนนี้สามารถช่วยในการพัฒนาและฝึกฝนการอ่านของเด็กๆ ได้ อีกทั้งช่วยสอนในบางคำศัพท์ที่ไม่มีอยู่ในเนื้อหาหรือบทเรียน เป็นแรงผลักดันให้เด็กๆ อยากเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
5. ช่วยสร้างกำลังใจ
การ์ตูนหลายเรื่องมักนำเสนอเกี่ยวกับตัวเอกที่ต้องพบเจอกับอุปสรรค์ในหลายๆ รูปแบบ แต่ตัวละครเอกเหล่านั้นก็ไม่เคยย่อท้อและมีความพยายามอยู่เสมอ และในทุกการเดินทางของเนื้อเรื่องมักจะพบเจอคำพูดที่ช่วยเป็นคติสอนใจ และเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ชมเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงสร้างกำลังใจให้เผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่ยากลำบากได้อีกด้วย
6. กระตุ้นการอยากออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมอื่นๆ
การ์ตูนมีอยู่หลายแนวให้เลือกดู หนึ่งในนั้นคือการ์ตูนแนวกีฬาที่มักพบเห็นได้บ่อยๆ และกลายเป็นเหมือนแรงผลักดันที่ดีให้แก่ผู้ชม รวมไปถึงช่วยส่งเสริมในเรื่องของกิจกรรม และการเล่นนอกชั้นเรียนช่วยเสริมสมรรถภาพทางร่างกายและปัญญาได้
นี่แหละ ! คือข้อดีของการ์ตูนที่ไม่ควรมองข้าม แต่อย่าลืมว่าการดูหรืออ่านการ์ตูนนั้นก็ส่งผลในด้านลบได้อีกด้วย ฉะนั้นเราจึงต้องบริหารเวลาให้ดีๆ ล่ะ !
ขอบคุณข้อมูลจาก : Sanook